นักธุรกิจหนุ่มหน้ามล “พิธาน” สอยหุ้น “มอส เบอร์เกอร์” ปรับแผน รุกออนไลน์ ขยายสาขา ชิงแชร์พุ่ง 10 %

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

นักธุรกิจหนุ่มหน้ามล “พิธาน” สอยหุ้น “มอส เบอร์เกอร์”  ปรับแผน รุกออนไลน์ ขยายสาขา ชิงแชร์พุ่ง 10 %


นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานบริษัท มอส ฟูดส์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเบอร์เกอร์ในไทยทั้งเชนใหญ่และทั่วไปมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 5% ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเจ้าใหญ่หลัก ๆ อยู่ประมาณ 2-3 แบรนด์ ในไทย อาทิ  เบอร์เกอร์คิง แมคโดนัลด์ เป็นต้น ซึ่งตนเองเล็งเห็นว่าตลาดดังกล่าวยังมีโอกาสและมีความน่าสนใจในการเข้ามาทำตลาดนี้อยู่มาก โดยเฉพาะ มอส เบอร์เกอร์ เองเป็นแบรนด์ร้านอาหารฟาส์ต์ฟู้ดชั้นนำที่ประสบความสำเร็จอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น และยังประสบความสำเร็จในอีกหลาย ๆ ประเทศ โดยในปัจจุบันได้ขยายสาขาไปในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย สำหรับประเทศไทย มอส เบอร์เกอร์ ได้เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกที่เซ็นทรัล เวิลด์ ในปี 2550 ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีพอสมควรเพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้ทำตลาดมากนักในไทย จึงทำให้มีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 1% เท่านั้น

ดังนั้น ผมจึงมองว่ามอสเบอร์เกอร์เป็นธุรกิจที่น่าจับตามองและมีโอกาสที่สามารถเติบโตได้ เนื่องจากแบรนด์มีจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพอาหารและรสชาติที่เป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับความชอบของคนไทยที่ชื่นชอบรสชาติของอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว เมื่อนำกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะกับคนไทยเข้ามาเสริม มอสเบอร์เกอร์ ก็จะสามารถเติบโตและกลายเป็นคู่แข่งลำดับต้น ๆ ในตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทยได้ในอนาคต ล่าสุด ผมจึงได้เข้าไปร่วมทุนในการซื้อหุ้น 75% ส่วนที่เหลืออีก 25% ถือหุ้นโดยมอสเบอร์เกอร์ญี่ปุ่น พร้อมได้เพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่อีก 200 ล้านบาทเป็น 206 ล้านบาท จากเดิมมีทุนจดทะเบียนเพียง 6 ล้านบาท

นายพิธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของตนในครั้งนี้จะมาเสริมความแข็งแกร่งในด้านการตลาดและการบริหารงาน โดยแผนการตลาดในครึ่งปีหลังที่เหลือนี้ จะขยายสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8 สาขาในกรุงเทพฯ  นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกปีละ 9 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว คาดว่าสิ้นปี 2562 นี้จะมีรวม 14 สาขา และเพิ่มเป็น 23 สาขาในปีหน้า

พร้อมกันนี้ยังได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเน้นการทำออนไลน์ ดิลิเวอรี่ ซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการดิลิเวอรี่ต่าง ๆ และจัดทำโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอื่น ๆ  เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าภายในสิ้นปีนี้ที่วางไว้อยู่ที่  100 ล้านบาท จากปีที่แล้วปิดยอดขายอยู่ที่ 80 ล้านบาท และเป้าหมายภายใน 4 ปี นับจากนี้จะสามารถผลักดันยอดเพิ่มได้ราว 500 ล้านบาท และพร้อมตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 10%  พร้อม สามารถขยายสาขาได้ถึง 90 สาขา ทั่วประเทศ ภายใน 8 ปี ต่อจากนี้

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ