“เวิลด์ รีวอร์ด โซ ลูชั่น” เผยแผนธุรกิจที่เหนือชั้นกว่า ไลฟ์สไตล์เซอร์วิสแนวใหม่ มัดใจเศรษฐี

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

“เวิลด์ รีวอร์ด โซ ลูชั่น” เผยแผนธุรกิจที่เหนือชั้นกว่า ไลฟ์สไตล์เซอร์วิสแนวใหม่ มัดใจเศรษฐี


ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้ปัจจุบัน ประเทศไทยมีนักธุรกิจหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจสตาร์ทอัพกันเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อระดับพรีเมียมของสินค้าและบริการต่างๆ  ที่ต้องดูแลเอาใจใส่พวกเขามากเป็นพิเศษ

นั่นจึงเป็นโอกาสและความท้าทายของธุรกิจของ บริษัท เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัด ซึ่งดำเนิน ธุรกิจด้านการออกแบบโปรแกรมพริวิเลจสำหรับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ มากว่า 1 ปี และสามารถกวาดรายได้ไปกว่าร้อยล้านบาท ภายนอกอาจดูเป็นการประสบความสำเร็จที่รวดเร็ว แต่ความสำเร็จที่เห็นทุกวันนี้แท้จริงแล้วเกิดจากประสบการณ์ที่ "เก่ง-จักรพันธ์ รัตนเพชร" กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัด ใช้เวลาสั่งสมมายาวนานหลายปี บวกกับความซื่อสัตย์ จริงใจ และรู้จักสร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจให้กว้างขวางและแข็งแกร่งมากขึ้น

คุณเก่ง เล่าว่า เดิมตนเองเป็นคนพื้นเพ จ.นราธิวาส และมีโอกาสคลุกคลีกับธุรกิจด้านโรงแรมและการบริการมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ทำธุรกิจโรงแรม ด้วยเหตุนี้จึงมีเป้าหมายชัดเจนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาว่าจะเรียนด้านการโรงแรม แม้ว่าผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเข้าสายวิทย์ได้แบบสบาย ๆ ต่อมาจึงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ) จากมหาวิทยาลัยพายัพ ก่อนฝึกงานเป็นอาจารย์สอนด้านการโรงแรม หลักสูตรนานาชาติ ที่วิทยาลัยดุสิตธานี และได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและปริญญาเอกด้านการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ระหว่างค้นหามหาวิทยาลัยที่อยากเรียนค้นพบตัวเองว่าอยากทำงานบริการมากกว่าเป็นอาจารย์ จึงตัดสินใจทิ้งงานอาจารย์และทุนการศึกษา เพื่อเข้าทำงานใน "ควินท์เอสเซนเชียลลี่ ประเทศไทย" ธุรกิจให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวจากประเทศอังกฤษ ดูแลช่วยจองร้านอาหาร โรงแรม หรือบัตรเข้างานต่าง ๆ ให้ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นซีอีโอ ผู้บริหารระดับสูง ซึ่งกว่าจะได้ทำงานต้องได้รับการเทรนจากบริษัทที่อังกฤษโดยตรง เก่งทำงานที่นั่นอยู่ราว 5 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนเป็นโอเปอเรชั่น แมเนเจอร์ ทำหน้าที่คุมทีมเซอร์วิสทั้งหมด

จากนั้นย้ายไปทำงานที่ "แอสไปร์ ไลฟ์สไตล์" ทำธุรกิจเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากดูแลลูกค้ารายบุคคลเป็นลูกค้าที่เป็นองค์กร รวมถึงส่วนร่วมด้านการตลาดช่วยคิดค้นแคมเปญและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้ามากขึ้น ทำงานอยู่ประมาณ 2 ปี ก่อนถึงจุดพลิกผันของชีวิต เมื่อมีบริษัทสิงคโปร์มาทาบทามไปทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่กลับเปิดได้เพียง 2 เดือน ก็ปิดตัวลง โดยที่ตัวเองยังมีลูกค้าอยู่ในมืออีกจำนวนมาก สุดท้ายตัดสินใจเปิดบริษัทของตัวเองภายใต้ชื่อแบล็ค ไท (Black Tie)

เล่าถึงตรงนี้ คุณเก่ง เผยว่า ถือเป็นจุดพลิกผันในชีวิต เพราะไลฟ์สไตล์จริง ๆ เป็นคนไม่ชอบความเสี่ยง แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกเพราะทำงานมาแทบทุกบริษัท และขณะนั้นเงินเดือนสูงมาก จึงเป็นที่มาของการเปิดบริษัทดูแลลูกค้า โดยหันมาจับลูกค้าระดับกลางที่มีสไตล์บูทีค ซึ่งหลังจากเปิดได้เพียง 6 เดือนได้ลูกค้ารายใหญ่เป็นบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งมีงบทำแคมเปญมหาศาล ทำให้บริษัทมีเงินทุนมากขึ้นและเริ่มได้โอกาสจากลูกค้ารายอื่นเพิ่มเติม แต่หลังจากเปิดบริษัทได้เพียง 4 ปี ทัศนคติไม่ตรงกับพาร์ทเนอร์ จึงขายหุ้นทั้งหมดแล้วแยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่

สำหรับ "บริษัท เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น จำกัด" ครบ 1 ปี เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมฉลองยอดขายที่ 100 ล้านบาท คุณเก่ง อธิบายเพิ่มเติมว่า ตอนนี้บริษัทมี 2 แบรนด์ภายใต้คอนเซปต์ "ไฮเทค มีต ไฮทัช" คือ "เวิลด์ รีวอร์ด" นำเสนอการให้บริการและการจัดการเกี่ยวกับรีวอร์ดและโปรแกรมสร้างความภักดีต่อองค์กรให้องค์กรที่ต้องดูแลกลุ่มลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์คือ "ซิลเวอร์ โวยาจ" ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อมอบการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

"ปีนี้ได้พาร์ทเนอร์ที่เป็นธุรกิจบริการเหมือนกับที่สิงคโปร์ จับมือร่วมกันแล้วสร้างแพลตฟอร์มที่จะขยายสู่ตลาดเอเชียทั้งหมด โดยแบ่งขอบเขตดูแลร่วมกันว่าสิงคโปร์เขาจะดูแลทางฝั่งสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ส่วนเราดูซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) แล้วก็ทำตลาดร่วมกันภายใต้แบรนด์ ซิลเวอร์โวยาจ น่าจะเปิดตัวภายใน 2-3 เดือนนี้ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 150 ล้านบาท"

หลักการทำธุรกิจ คุณเก่ง บอกว่า ยึดอยู่ 3 อย่างสำคัญ คือ "ทุ่มเท" ไม่ว่าจะทำอะไรค่อนข้างทำแบบสุด ๆ นอกจากนั้นยังต้องมี "ความซื่อสัตย์และความจริงใจ" กับลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ สุดท้ายคือ "การสร้างเครือข่าย" ศัตรูหรือการแข่งขันไม่ใช่หลักค้าขายอีกต่อไป บางครั้งเราสามารถจับมือร่วมกันกับคู่แข่งเพื่อขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้นได้ ก่อนปิดท้ายถึงเป้าหมายในอนาคตว่า อยากขยายธุรกิจนี้ให้เป็นผู้นำทางเอเชีย ดังนั้นจึงมองการปักธงในหลาย ๆ ประเทศในเอเชียมากขึ้น

ทั้งนี้ คุณเก่ง ยังได้เผยถึงพฤติกรรมที่น่าสนใจของลูกค้ากลุ่มพรีเมียมในปัจจุบัน โดยระบุว่า เดิมทีลูกค้ากลุ่มนี้ มีพฤติกรรมการใช้จ่ายไปกับสินค้าระดับลักซ์ชัวรี่ ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ระดับแบรนด์เนมหรือที่พักสุดหรู แต่วันนี้พวกเขาแสวงหาความแตกต่างจากประสบการณ์ที่เงินอาจจะหาซื้อไม่ได้ เช่น การได้พักผ่อนอยู่ในอาณาจักรของเจ้าของแบรนด์ไวน์ชื่อดัง หรือการนำเชฟที่มีชื่อเสียงมาสร้างสรรค์เมนูอาหารให้รับประทานถึงที่บ้าน เป็นต้น เพื่อแสดงความเป็นตัวตนที่หลายคนเลียนแบบไม่ได้ซึ่งเป็นโจทย์ที่คุณเก่งและพาร์ทเนอร์จะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีเพื่อก้าวสู่ผู้นำธุรกิจนี้ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ