PANUS ยึดเบอร์หนึ่งรถโลจิสติกส์เมืองไทย เจาะส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 25% ทุ่มทุนกว่า 700 ล้านบาท เนรมิตไลน์ผลิตใหม่ 2 แห่ง บนพื้นที่ 60 ไร่ คาดแล้วเสร็จ ก.พ. ปี 63 รองรับการผลิตที่สูงขึ้นในอนาคต ย้ำงานบริการหลังการขายคือจุดเด่นของ PANUS
นางสาวณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด (PANUS) เปิดเผยว่า ในปี 2562 นี้ ถือว่าเป็นปีทองของบริษัทฯ เนื่องจากทีมงานทุกคนได้ร่วมมือกันทำงานอย่างหนัก จนส่งผลให้ตลาดรวมของ PANUS มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 25% หากเปรียบเทียบ 3 ปี จนถึงปีนี้ ส่วนแบ่งการตลาดโตต่อเนื่องตั้งแต่ 18% และ 20% จนครึ่งปีแรกของปี 62 ทะลุ 25% แล้ว ซึ่งสวนทางกับตลาดรวมรถใหญ่ในปีนี้ที่ตกลงถึง 9%
สำหรับสินค้าที่เป็นเจ้าตลาดในปัจจุบันที่ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งมายาวนานคือรถบรรทุกกึ่งพ่วงก้างปลาอยู่ที่ 68% ส่วนรถบรรทุกกึ่งพ่วงพื้นเรียบอยู่ที่ 31% สินค้าอีกประเภทที่มาแรงตลอดคือรถบรรทุกรถยนต์สัดส่วนอยู่ที่ 100% ในปี 2562
“เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่ง PANUS ที่ครองใจผู้ใช้งานมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งการตลาด และใน 7 เดือนแรกของปีนี้ยอดขายรวมทุกประเภทของ PANUS อยู่ที่ 2,000 คัน ซึ่งคาดการณ์ว่าสามารถบรรลุเป้าที่วางไว้เพิ่มขึ้น 10% ในปีนี้อย่างแน่นอน”
นางสาวณัชชา กล่าวอีกว่า จากส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้นและยอดขายที่โตต่อเนื่องทุกปี ทาง PANUS พร้อมปักหมุดสู่ความสำเร็จ และต้องเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมขนส่งในอนาคต จึงได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท ขยายไลน์การผลิต จำนวน 2 แห่ง เพื่อเพิ่มกำลังผลิตให้สูงขึ้นโดยแต่ละไลน์ผลิตมีพื้นที่ขนาด 30 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 60 ไร่
“ถ้าใครที่เป็นลูกค้าที่มาโรงงานจะเห็นไลน์ผลิตด้านหน้า โดยประเภทรถกึ่งพ่วงก้างปลาและพื้นเรียบจะถูกย้ายไปไลน์ใหม่ให้หมด ซึ่งด้านหน้าปรับเปลี่ยนและต่อเติมเป็นงานบริการหลังการขายเพื่อความสะดวกกับลูกค้าที่เข้ามาสามารถเข้ารับการบริการได้เลย ส่วนในไลน์ผลิตที่สองจะเป็นรถบรรทุกดัมพ์ 6 ล้อ 10 ล้อ และรถบรรทุกเทรลเลอร์ดัมพ์ทั้งหมด โดยรองรับความต้องการของตลาดมากขึ้น”
โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อตอบสนองเรื่องการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นจึงลงทุนเครื่องจักรที่เป็นโรบ็อตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและเจ้าตลาดผู้ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทยของ PANUS โดยจะแล้วเสร็จไลน์แรกเดือน ก.พ. 2563 และตามมาเป็นไลน์ที่สองเดือน พ.ค.ปี 2563
นางสาวณัชชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปีที่ผ่าน PANUS S Plus ได้ดำเนินการงานด้านบริการให้เป็นรูปประธรรมเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นจากการตั้งเป้าขยายศูนย์บริการที่จับมือพันธมิตรผู้จำหน่ายรถบรรทุกให้ลูกค้า PANUS สามารถเข้าไปใช้บริการ จนมาปีนี้ทางเราดำเนินงานไปแล้ว 90% ซึ่งเกือบครบจำนวนที่วางไว้แล้วทั่วภูมิภาค จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจในสินค้าของ PANUS เพิ่มมากขึ้น เพราะทางเราทำให้เห็นว่าเราทำจริงและให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่จริง
“ขนาดลูกค้าเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เรายังลงทุนลงแรงไปบริการให้ถึงที่และได้ความพึ่งพอใจจากลูกค้ากลับมาจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า PANUS S Plus คือกลไกสำคัญที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ มีลูกค้าบางรายที่ก่อนหน้านี้หันไปใช้บริการจากโรงงานผลิตรายย่อย ด้วยราคาที่ถูกกว่าแถมมีข้อเสนอดี ๆ มาล่อใจ สุดท้ายลูกค้ารายนั้นก็กลับมาหาเราเหมือนเดิมเนื่องจากใช้รถไปได้ไม่นานก็ซ่อมบริการก็ไม่ดีรถต้องหยุดวิ่งรายได้ก็หยุดเดิน”
