ซีอีเอปักธง 2563 ดัน Creative Caravan กระจายแนวคิดสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ ขยายแพลตฟอร์มทางธุรกิจเพิ่มโอกาสนักสร้างสรรค์ ดันอุตฯดนตรี ศิลปะ การแสดงไทยขึ้นแท่น ชูกรุงเทพฯเมืองสร้างสรรค์โลก
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) เผยดัชนีเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยรุ่ง หลังพบสร้างรายได้เข้าประเทศถึง 1.4 ล้านล้านบาท หนุนเร่งเครื่องศักยภาพการแข่งขันไทยใน 3 มิติ ได้แก่ บุคลากรสร้างสรรค์ ธุรกิจสร้างสรรค์ และพื้นที่สร้างสรรค์ ผ่านการผนึกกำลังหน่วยงานทุกภาคส่วน สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรม
โดยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ถือเป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศด้วยความคิดสร้างสรรค์ ที่หลายประเทศทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ อาทิ ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศที่ใช้แนวคิดครีเอทีฟ โคเรีย (Creative Korea) ส่งเสริมการส่งออกเนื้อหาและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมขยายการเข้าถึงสินค้าและบริการ และ สหราชอาณาจักร ประเทศที่ใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดันอุตสาหกรรมการออกแบบ จนขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของกลุ่มสหภาพยุโรป
“ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีต้นทุนทางวัฒนธรรมล้ำค่าจำนวนมาก ทั้งอาคารสถาปัตยกรรมและแหล่งโบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เทศกาลและประเพณี ทักษะช่างฝีมือและองค์ความรู้ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสู่สินค้าและบริการสร้างสรรค์ โดยพบอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปี 2560 มีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 9.1%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และในห้วงเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2553-2560 มีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องถึง 5.61% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของจีดีพีภาพรวม ซึ่งอยู่ที่ 5.24%” ดร.อรรชกา กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กล่าวว่าในปี 2563 ซีอีเอ เตรียมเดินหน้ายกระดับนโยบายทั้ง 3 ด้าน อาทิ การจัดกิจกรรมครีเอทีฟคาราวาน (Creative Caravan) ที่ขยายเครือข่ายจากมินิทีซีดีซี (miniTCDC) เพื่อกระจายแนวคิดสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ การเพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับธุรกิจสร้างสรรค์ที่สามารถเชื่อมโยงกับตลาดได้โดยตรง โดยเพิ่มแพลตฟอร์มทางออนไลน์ที่เป็นที่นิยม เพื่อให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเติบโตมากขึ้น รวมถึงการผลักดันกรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งการออกแบบในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก