“ซิงเกอร์” ลุยแพร่แฟรนไชส์ 7 พันกว่าตำบล ดันยอดโตพุ่ง 7 เท่าใน 3 ปี

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562

“ซิงเกอร์”  ลุยแพร่แฟรนไชส์ 7 พันกว่าตำบล ดันยอดโตพุ่ง 7 เท่าใน 3 ปี


นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER กล่าวว่า ภาพรวมของซิงเกอร์ในปีนี้ เราจะเดินหน้าขยายธุรกิจแฟรนไชส์ หรือสาขาย่อยลงไปในระดับตำบลต่อเนื่อง ปัจจุบันเรามีสาขารวมทั้งสิ้น 1,051 สาขา แบ่งเป็นร้านสาขาหลัก 182 สาขา ร้านแฟรนไชส์หรือสาขาย่อย 869 สาขา ครอบคลุม 763 ตำบล จาก 475 อำเภอ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ แม่ฮ่องสอน ที่จะเปิดเร็วๆ นี้ โดยภายในปีนี้เรายังคงวางเป้าหมายที่จะต้องเปิดสาขาได้ประมาณ 150 สาขาต่อเดือนจากนี้เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเปิดสาขาเฉลี่ย 120-140 สาขาต่อเดือน ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้จะมีรวมเป็น 200 สาขาหลัก กับอีก 2,000 สาขาย่อย

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2563 ที่เราวางไว้ บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายการขายแบบเจาะลึกทุกอำเภอเข้าถึงในทุกตำบล เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เติบโตมากขึ้น โดยตั้งเป้าขยายธุรกิจแฟรนไชส์หรือสาขาย่อยของบริษัทให้ครอบคลุม 925 อำเภอ ในปี 2563 และครบ 7,000 กว่าตำบลทั่วประเทศภายในปี 2565 เพื่อสร้างการเติบโตมีรายได้เพิ่มเป็น 7 เท่าภายในปี 2565

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สาขาแฟรนไชส์ของบริษัทฯ จะกำหนดเป็นรูปแบบต่างๆ ไว้ 3 รูปแบบคือ  1. แบบสแตนดาร์ดหรือมาตรฐาน จะมีรายได้ดังนี้ 6% จากยอดขาย และค่าบริการเก็บเงินอีก 5-10% 2. แบบพรีเมียม รักษายอดขายไว้ที่ 3 แสนบาทต่อเดือน ค่าบริหารงานขาย 8% และค่าบริหารการเก็บเงิน 5-10% และ 3. แบบพาร์ตเนอร์ มียอดขาย 6 แสนบาทต่อเดือน ค่าบริหารงานขาย 10% และค่าบริหารการเก็บเงิน 5-10% โดยในแต่ละโมเดลจะใช้ยอดขายเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดรูปแบบร้าน การวางสินค้า และการคิดคำนวณค่าตอบแทนการขายที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกโมเดลได้รับเหมือนกันคือ จะไม่มีการเก็บค่าแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปี ไม่ต้องลงทุนในการซื้อสินค้าไปสต๊อก ได้เป็นเจ้าของกิจการของตนเอง มีรายได้จากการขาย การสร้างทีมขาย รวมถึงรายได้จาการบริหารบัญชีลูกค้าของตนเองแบบไร้ขีดจำกัด ทั้งนี้ยังสามารถขายสินค้าได้ทั้งในรูปแบบของระบบเงินสดและเงินผ่อน โดยบริษัทจะเป็นผู้ดูแลด้วยการนำระบบรองรับการจำหน่ายสินค้าที่ทันสมัย เรียนรู้ง่าย สามารถใช้งานได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และมีทีมงานบริหารหลังบ้าน (back office) คอยสนับสนุน อำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนของกระบวนการขายตลอดเวลา

ทั้งนี้ ปัจจุบัน SINGER เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ซิงเกอร์”  โดยบริษัทมียอดสินเชื่อจากลูกหนี้หรือลูกค้าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยมีวงเงินหนี้สำรองประมาณ 20-30 ล้านบาทต่อเดือน และจะเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาทในปีหน้า และปี 2565 จะเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท  สำหรับสินค้าและบริการมี 2-3 ระดับ และมีสัดส่วนรายได้ยอดขาย คือ 1. การทำคาร์ฟอร์แคชหรือนอนซิงเกอร์ มีสัดส่วน 50% และ 2. การขายสินค้าแบรนด์ซิงเกอร์ซึ่งจ้างผลิตทั้งหมด มีสัดส่วน 50% แต่ในแง่สินค้านั้นมี 3 กลุ่ม คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องซักผ้า สัดส่วน 65%, กลุ่มหยอดเหรียญ ตู้แช่ สัดส่วน 30% และกลุ่มมือถือ 5% โดยวางเป้าหมายจะปรับสัดส่วนเป็น กลุ่มนอนซิงเกอร์ 65% และการขายสินค้าแบรนด์ซิงเกอร์ 35% ในปีหน้า และภายในปี 2565 จะเป็นนอนซิงเกอร์หรือการปล่อยสินเชื่อ 75% ส่วนแบรนด์ซิงเกอร์ 25%



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ