MAN รุกตลาดโลจิสติกส์ไทย ปั้น 3 ปี “รถบัส-บรรทุก” ขึ้นเบอร์หนึ่ง

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562

MAN รุกตลาดโลจิสติกส์ไทย ปั้น 3 ปี “รถบัส-บรรทุก” ขึ้นเบอร์หนึ่ง


MAN รุกตลาดโลจิสติกส์ไทย เดินหน้าเซ็ตอัพ Area Asia Pacific ในไทย ชูสโลแกน MAN – Simply #1 มัดใจกลุ่มขนส่ง วางเป้า 3 ปี ปั้น “รถบัส-บรรทุก” ก้าวสู่เบอร์ 1 หรือ 2 ยอดขายรถยุโรปในไทย เตรียมขยายดีเลอร์ 2-3 แห่ง พร้อมผุดแวร์เฮ้าส์สต๊อกอะไหล่ หวังดูแลลูกค้ารถใหญ่ MAN ในไทยมากขึ้น

Mr.Thilo Halter President/Managing Director Head of Area Asia Pacific เปิดเผยว่า บริษัทแม่ MAN ได้มีนโยบายที่จะเซ็ตอัพ Area Asia Pacific ในไทย เพื่อดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้วเราใช้กลยุทธ์ขายตรงกับลูกค้าโดยที่ไม่มี Area Importer ต่างๆ เนื่องจากเราคิดว่าทางบริษัทแม่รับรู้ทุกปัญหาทั้งของเราและ Importer ซึ่งน่าจะดีกว่าในการเข้ามาช่วยแก้ทุกปัญหา แต่พอไม่ได้ใช้กลยุทธ์แบบนั้น หลังผ่านมาได้ 4 ปีแล้วเรามองว่าไม่เวิร์ค เพราะการที่เราสามารถตัดสินใจได้ทันทีในการเข้ารวบรวมตลาดใน Area APAC เป็นการเข้ามาใกล้ชิดกับตลาดที่เราดูแลเองมากกว่าการที่สำนักงานใหญ่จะลงมาตัดสินลงใจมาแก้ปัญหาแต่ละเรื่องเอง ซึ่งเรามองว่า เป็นเรื่องที่ดีกว่า เราจึงกลับมาเซ็ตอัพ Area APAC ใหม่อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.ค.2019 เป็นต้นมา

“การเซ็ตอัพแบบนี้มีความแตกต่างจากเดิมก็คือเรามีทีมงานที่นั่งทำงานที่นี่ทีมเดียวกัน บทบาทหน้าที่ของ Area APAC สามารถดูแลลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากกว่า เรารู้ความต้องการของลูกค้า รู้ว่ารถประเภทไหนเหมาะสมกับแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่จีน เกาหลี หรือแม้แต่ที่ประเทศไทยเองก็ตาม เรามีการสนับสนุนหลังการขายที่ดี โดยสามารถเข้าถึงลูกค้าและสามารถแก้ปัญหาลูกค้าได้ตรงจุด เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที และเรามั่นใจในกลยุทธ์ที่เราจะขับเคลื่อนทางการตลาดสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เราอยากเห็นการเติบโตรถใหญ่ MAN อย่างรวดเร็วในตลาด Area APAC ด้วยทิศทางกลยุทธ์การตลาดที่เราจะนำทางไป”

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มีสโลแกนว่า MAN –Simply #1 ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยผลักดันให้เป็นที่ 1 ได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นที่ 1 ในแง่ของยอดขาย แต่เราต้องการเป็นที่ 1 ด้วยความพึงพอใจลูกค้าเป็นสำคัญ และเป็นที่ 1 ของพนักงาน เมื่อพนักงานและลูกค้าของ MAN มีความสุข ยอดขายเราก็จะดีขึ้น ส่วนแบ่งทางตลาดก็จะมากขึ้นตามมา เพราะภายใต้กลยุทธ์ Simply Business นี้เราต้องการขับเคลื่อนธุรกิจของเราให้ง่ายมากขึ้น เราจะทำทุกอย่างให้มันง่าย เรายืนอยู่บนมุมมองความต้องการลูกค้า อยากให้ลูกค้าทำธุรกิจกับเราได้ง่ายมากขึ้น ทั้งกระบวนการซื้อขายรถบัสก็ดี รถบรรทุกก็ดี รวมถึงงานบริการหลังการขาย การบริการอื่นๆ หรือการรับบริการต่าง ๆ เพื่อให้ทุกขั้นตอนการทำธุรกิจของลูกค้ากับเราให้ง่ายมากที่สุด ทั้งหมดถูกจะอยู่ในกลยุทธ์ MAN –Simply #1

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่ขยายเน็ตเวิร์คเพิ่ม และอยู่ภายใต้เน็ตเวิร์คที่มีคุณภาพ โดยจะลงไปเจาะดูในแต่ละประเทศ Area APAC ซึ่งจะมีทีมงานลงไปดูว่าลูกค้าเราอยู่ตรงไหน สมควรจะสร้างเน็ตเวิร์คเพิ่มที่ไหนอย่างไร ซึ่งนั่นจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ไป ส่วนตลาดประเทศไทยบางพื้นที่เราต้องการให้ทีมงานลงไปดูและอยู่กับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะได้รู้ว่าลูกค้าแต่ในพื้นที่นั้นๆ ต้องการอะไร เพื่อเราจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้ตรงจุด เรายังยืนยันว่าในไทยเรายังจะทำธุรกิจกับพันธมิตรและตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) รถใหญ่ MAN ในท้องถิ่น เราอยากให้ลูกค้าได้มั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะมีเน็ตเวิร์คเซอร์วิสเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแน่นอน

“เรื่องการดูแลหลังการขายนั้น ลูกค้าไม่ต้องห่วงว่า รถบรรทุกและรถโดยสารที่หากเกิดเหตุขัดข้องขึ้นมาแล้วจะไม่มีศูนย์บริการเข้าไปใช้บริการ ซึ่งเรามีแผนที่จะขยายเพิ่มดีลเลอร์อีกแน่นอน อาจจะ 2 หรือ 3 แห่ง และเราไม่มองไปที่จำนวนดีลเลอร์ที่เยอะ แต่เรามองถึงคุณภาพและการที่เรามีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมากกว่า ซึ่งจะสามารถทำงานและพัฒนาร่วมกันได้ และช่วยกันดันยอดขายให้ไปอยู่ในจุดที่ดีได้ด้วย”

สำหรับการสร้างโรงงานผลิตรถ MAN ในไทยนั้น ถ้าถามว่าคิดไหมก็ต้องบอกว่าคิด แต่การตั้งโรงงานผลิตในไทยค่อนข้างควบคุมมาตรฐานการผลิตได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่เราโฟกัสในสถานะปัจจุบัน คือเราต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และยังคงนำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานและการบริการที่ดีกับลูกค้าดีกว่า อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้เรามีแผนสร้างแวร์เฮ้าส์สต๊อกอะไหล่ในไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที

“หากจะให้บอกถึงตัวเลขยอดขายในไทยไม่ขอระบุในเวลานี้ เพราะมีอุปสรรคหลายๆ อย่างในการที่จะเติบโตในไทย เราอยากให้โฟกัสที่แนวทางการทำตลาดเพื่อดัน MAN ให้ก้าวมาเป็นตัวเลือกของลูกค้าคนไทยในแง่มุมความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากกว่า โดยเรามองไปข้างหน้าอีก 3 ปี  MAN น่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดก้าวขึ้นสู่อับดับที่ 1 หรือไม่ก็ 2 ของตลาดรถใหญ่ยุโรปในไทย เพราะด้วยประสบการณ์ที่เคยทำตลาดจนประสบความสำเร็จมาแล้วในเกาหลีใต้ จากเดิมเคยมียอดขาย 150 คันต่อปีแล้วพุ่งทะยานมาเป็น 1,100-1,500 คันต่อปี ทำให้รู้ว่าเราต้องทำอย่างไรให้ได้ส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้น ซึ่งนั่นก็ต้องมีแผนที่ชัดเจนเพื่อการทำตลาดรถใหญ่ MAN ให้เติบโตมากขึ้นในไทย”

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมายอมรับว่า เราไม่ได้ใส่ใจลูกค้าเท่าที่ควร เราผิดพลาดมาตลาด เราปล่อยให้ลูกค้าอยู่กับ Third Party ทั้งที่เรามีออฟฟิศอยู่ที่เมืองไทย แต่เราไม่ได้เข้าถึงลูกค้าคนไทยมากเท่าที่ควรจะเป็น จากนี้ไปเราปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เราต้องเข้าโฟกัสตรงนี้เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม เราอยู่ที่นี่โดยที่มีความน่าเชื่อมากกว่าคนอื่น สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้รู้ว่าเราทำอะไรผิดพลาดมา สิ่งที่ผ่านมามันไม่ดีหรือพลาดตรงไหนบ้าง แล้วเราจะต้องกลับไปแก้ไขข้อที่เราเคยผิดพลาด การที่เราจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ก็ต้องมีแผนที่ัเจนและต้องใช้เวลาพอสมควร

“ความเป็นจริงคนเราผิดพลาดกันได้หมดทั้งนั้น เราจะไม่โทษสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่เราจะโทษที่ตัวเรามากกว่า ที่บริหารผิดพลาดเอง เมื่อลองเปรียบเทียบกับการขับรถถ้ามัวแต่มองกระจกหลังแล้วไม่มองกระจกหน้า เราก็จะมองไม่เห็นช่องทางเลยว่าเราจะไปทางไหน ดังนั้น จากนี้ไปเราอยากให้โฟกัสที่อนาคตมากกว่า อย่างไรก็ดี MAN อยู่ในเมืองไทยมาแล้ว 12 ปี แต่ที่ผ่านมาเราเดินแผนการตลาดผิดพลาดเอง แต่จากนี้ไปถามว่ามีช่องทางการเติบโตในไทยหรือไม่ มันมีอยู่แล้ว โดยทิศทางการเติบโตในไทยเรามองไป 3 ปัจจัยหลัก คือ การขาย ความพึงพอใจการบริการหลังการขาย และความสุขของพนักงาน เราก็อยากให้ MAN มียอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่เรารู้ดีว่าเราจะทำอย่างไร แต่ระหว่างทางก็อาจจะมีความท้าทายและอุปสรรคบ้าง โดยเราจะนำปัจจัยเหล่านั้นมาเป็นความท้าทายในการทำตลาดให้ MAN เติบโตมากขึ้นในไทย”

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ