เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา สำหรับ Vivo V17 Pro สมาร์ตโฟนสุดล้ำ ที่มาพร้อมกล้อง 6 ตัวเพื่อการถ่ายภาพที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยจุดเด่นที่เป็น สมาร์ทโฟนกล้องหน้า Pop-Up คู่ตัวแรกของโลก จะเป็นสิ่งที่ฮือหาแล้ว และพูดถึงกันสำหรับชาวไอทีสาวกมือถือแบรนด์วีโว่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ฮอตปรอทแตกไม่แพ้กันและเป็นกระแสบนหน้าฟีดในโลกโซเชียลอย่างทวิตเตอร์ที่มีการทวิตพูดถึงกันอย่างมากเมื่อในวันเปิดตัวที่ผ่านมาก็คงหนีไม่พ้น การเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สุดฮอทกว่าแดดบ้านเราของมือถือรุ่นนี้ ซึ่งรอบนี้ทางวีโว่ ยังคงคว้าหนุ่ม “แบม แบม” Got7 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง แต่ความพิเศษคือยังได้คว้าคู่ชิป อย่าง "มาร์ค ต้วน" หนึ่งในสมาชิกแห่งวง Got7 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่ด้วยกัน จึงทำเหล่ากระแสแฟนคลับที่จิ้นทั้งคู่ ทั้ง ฟิน ปลึ้มปริ่ม ไปตาม ๆ กัน กับการที่วีโว่ได้เลือกทั้งคู่ให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในมือถือรุ่นนี้
ทั้งนี้ นอกเหนือจากตัวกระแสของพรีเซ็นเตอร์ที่มีฮอทร้อนแรงไม่เคยลดดีกรีลงเลย ที่สำคัญไปกว่านั้น Vivo V17 Pro รุ่นนี้ ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ให้ทุกการเซลฟี่ของคุณคมชัด ไร้ที่ติ ด้วยกล้องหน้าระดับคุณภาพสูงสองตัว พร้อมด้วย Selfie Softlight ในตัวเครื่องเพื่อยกระดับความล้ำสมัย และมาพร้อมโหมดเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ Super Wide Angle ที่มีความละเอียด ถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมมุมกว้างพิเศษถึง 105 องศาทําให้มั่นใจได้ว่าทุกรายละเอียดของภาพคมชัดทุกองศา เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากขณะถ่ายเซลฟี่เวลากลางคืน Vivo V17 Pro จึงออกแบบ Selfie Softlight ที่ให้แสงสว่างในที่มืด และโหมด Super Night ที่จับใบหน้าและพื้นหลังให้สวยสมบูรณ์แบบ ให้ภาพใบหน้าสวยโดดเด่นจากพื้นตั้งเพียงคลิกเดียว อีกทั้ง กล้อง 48 ล้านพิกเซล AI Quad กล้องหลัง 4 เลนส์ที่ทําให้ถ่ายภาพได้เหมือนมืออาชีพประกอบไปด้วย กล้องหลัก 6P ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ทำงานควบคู่กับอัลกอริทึ่ม ของ AI ทำให้จับภาพได้ดี และ ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเลนส์ Super Wide Angle ที่ขยายภาพถ่ายทิวทัศน์ให้มีมุมกว้างอย่างไร้ขีดจํากัด มี 2 ฟังก์ชั่น อย่าง Pose Master ฟังก์ชันที่ทําให้ภาพถ่ายดูเป็นธรรมชาติอย่างมีสไตล์ หลากหลายไม่ว่าจะถ่ายที่ไหน และ ฟังก์ชัน Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่มีคุณสมบัติที่เพิ่มความคมชัดแม้ในที่แสงน้อย
ส่วนหน้าจอ Super AMOLED Ultra FullView ซ่อนกล้อง ลําโพง และระบบเซ็นเซอร์ไว้ภายใต้ตัวเครื่อง ขนาด 6.44 นิ้ว อัตราส่วน 20: 9 และพื้นที่หน้าจอสูงถึง 91.65% จอแสดงผลไร้ขอบที่ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อซ่อนกล้องหน้าคู่, ลําโพง และเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเอกลักษณ์ของ Vivo ด้วยความละเอียดที่สูงขึ้นของพิกเซลสแกนลายนิ้วมือ และระบบอัลกอริทึมที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทําให้ผู้ใช้งานสามารถปลดล็อกโทรศัพท์ได้อย่างปลอดภัย และง่ายขึ้น
ไม่เพียงแต่สายถ่ายภาพเท่านั้น Vivo V17 Pro ยังออกแบบมาสําหรับเกมเมอร์ ด้วยโหมดเกมที่ได้รับการออกแบบให้ดีและไหลลื่นยิ่งขึ้น และ Multi Turbo เทคโนโลยีการเพิ่มความเร็วที่จะปรับแต่งระบบปฏิบัติการอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น และยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ฟังก์ชัน Voice Changer ฟังก์ชั่นเปลี่ยน เสียงในเกมที่สามารถเพิ่มสีสัน และความสนุกในช่วงเวลาของการเล่นเกมด้วยเอฟเฟกต์เสียงตัวละครที่หลากหลายระหว่างเล่น อีกทั้ง มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE ทำงานบน RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถใช้งานหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างไหลลื่น และรองรับประสิทธิภาพการใช้งานของระบบและแอปพลิเคชั่น แบตเตอรี่ความจุ 4100mAh พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-Engine ที่จะนํามาซึ่งความ ทนทานที่สูงขึ้น และการชาร์จที่เร็วขึ้น
มาถึงตรงนี้ ราคาประกาศแล้วเพียง 12,999 บาท เท่านั้น มีสองสีให้เลือก คือสี Knight Black และสี Crystal White ซึ่งหลังจากเปิดตัว Vivo V17 Pro สมาร์ทโฟรุ่นนี้ไปก็ได้รับกระแสตอบรับพูดถึงในโซเชียลดีมาก ทำให้เชื่อได้เลยว่ายอดขายรุ่นนี้คงพุ่งทะยานๆ ปัง ๆ อีกตามเคย เพราะบรรดาเหล่าแฟนคลับของทั้ง 2 หนุ่มคงเตรียมควักกระเป๋าเปย์ซื้อกันแน่นอน
แต่ทว่า คงไม่ใช่เพราะจุดเด่นหรือสเปคเครื่องของมือถือที่สุดล้ำเพียงอย่างเดียว แต่น่าจะเป็นเพราะพรีเซ็นเตอร์เป็นจุดสำคัญที่ดึงดูดให้ต้องเลือก Vivo V17 Pro รุ่นนี้มามีไว้ข้างกาย เหมือนได้มีพรีเซ็นเตอร์ชายหนุ่ม 2 คน อยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคมกลยุทธ์หนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้วีโว่จริง ๆ ซึ่งอนาคตวีโว่ได้เตรียมแผลนจะทำกิจกรรมการตลาดอะไรไว้กับพรีเซ็นเตอร์ 2 หนุ่ม แห่งวง Got7 อีกนั้น คงต้องรอติดตามกันเลยจ้า (อิอิ)