รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ยังไม่สรุป! "รฟม.-กรมราง" ข้อมูลไม่ตรงกัน

วันอังคารที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2562

รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ยังไม่สรุป!


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน 1.28 แสนล้านบาทว่า ตามที่วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) มาประชุมร่วมกันถึงโครงการดังกล่าว เพื่อสรุปหารูปแบบการดำเนินการว่า รัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนของงานโยธาเองหรือไม่ หรือจะดำเนินการตามรูปแบบเดิม กล่าวคือ เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) 100% โดยในเบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการในแนวทางใด เนื่องจากตัวเลขวงเงินการลงทุนระหว่าง รฟม. กับ ขร. ที่เสนอมานั้น ยังไม่ตรงกัน โดยตัวเลขข้อมูลของ รฟม. ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ขณะที่ ขร. ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5-1.6% ดังนั้น จึงได้ให้โจทย์ว่าจะต้องพิจารณาอัพเดทให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (ด้านโครงสร้างพื้นฐาน) เป็นประธานพิจารณาดังกล่าว ในช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. 2562 ก่อนที่จะรายงานนายอนุทินในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาในวันที่ 11 ต.ค. นี้ โดยยืนยันว่าหากรัฐบาลดำเนินการงานโยธาเองนั้น จะไม่ล่าช้าและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เนื่องจากได้มีการออกแบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ที่ได้แบ่งออกเป็นหลายสัญญา และแล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลงด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลงานโยธาได้ภายในปี 2563 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 และเปิดให้บริการได้พร้อมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรีในปี 2569 “ผมได้รับรายงานมาว่าเบื้องต้นโครงการนี้ พิจารณาแยกการก่อสร้าง กับเดินรถ แต่หลังจากนั้นก็มาพิจารณารวมกัน เพราะว่าในขณะนั้นมีข้อจำกัดเรื่องกรอบวงเงินไม่มี เพดานหนี้เงินกู้ไม่พอ โดยตอนนี้ปี 2563 กรอบวงเงินเราเหลือ 11.5% ของงบประมาณ ซึ่งไม่มีปัญหาแล้ว แต่ต้องไปดูเลขให้ถูกต้อง ว่าควรเป็นเลขต้นทุนใดระหว่าง รฟม. กับ ขร. และต้องเป็นปัจจุบัน อย่าไปใช้ตัวเลขที่ไม่อัพเดท ซึ่งต้องบอกว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา ยังไม่ได้อนุมัติให้ดำเนินการ” นายศักดิ์สยาม กล่าว จากกรณีกระแสข่าวที่ว่าเอื้อผลประโยชน์ให้กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การพิจารณาโครงการนั้น ได้เรียงลำดับความสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ 3 กลุ่มหลักที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) คือ ลำดับที่ 1 ประชาชนจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด และรับภาระน้อยที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของอัตราค่าโดยสาร ลำดับที่ 2 รัฐจะต้องมีการลงทุนน้อย และลำดับที่ 3 เอกชนที่มาลงทุนจากรัฐจะต้องได้รับผลตอบแทน และถ้าหากดำเนินการในรูปแบบ PPP 100% นั้น จะมีต้นทุนแพงกว่ารัฐบาลดำเนินการในส่วนของงานโยธาเอง


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ