"RBF" ทยาน..!เทรดวันแรกพุ่งปิด 4.36บาท ยืนเหนือจอง 32.12%

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2562



 
อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย หรือ"RBF" ปลื้มเข้าซื้อขายวันแรก ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 4.36 บาท คิดเป็น 32.12 จากราคาจองที่ 3.30 บาท เหตุพื้นฐานธุรกิจดี และเป็นบริษัทนวัตกรรมอาหารรายเดียว ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้บริหารย้ำนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปลงทุนตามแผนที่ได้แจ้งไว้กับนักลงทุน
 
ดร.สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด  ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีที่นักลงทุนให้ความไว้วางใจในตัวบริษัทฯ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปดำเนินการตามแผนงานที่ได้วางไว้คือ ก่อสร้างโรงงานผลิตเกล็ดขนมปังและแป้งประกอบอาหาร ที่ประเทศอินโดนีเซีย  นำไปปรับปรุงและซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม ทั้งเครื่องจักรในการผลิตเกล็ดขนมปัง เครื่องจักรในการผลิตแป้งทอดกรอบ เครื่องจักรในการผลิตวัตถุแต่งกลิ่นรสแบบอัตโนมัติ ลงทุนเปิดบริษัทตัวแทนและห้องทดลองในประเทศสิงคโปร์ เพื่อขยายฐานลูกค้าในอนาคตของสินค้าประเภทวัตถุแต่งกลิ่นรส (Flavour) ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจากการจัดโครงสร้างกลุ่มของบริษัท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และจากแผนงานดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
ทั้งนี้บริษัทแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและรส และสีผสมอาหาร ,กลุ่มแป้งและซอส ,กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง  ,กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง  ,กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาเพื่อจำหน่าย  โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 61 บริษัทมีรายได้รวม 2,738.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 321.11 ล้านบาท และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 1,412.82 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 147.23 ล้านบาท โดยในงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 บริษัทมีค่าใช้จ่าย  one Time ประมาณ  30 ล้านบาท ประกอบด้วยการตั้งด้อยค่ากิจการโรงแรมจำนวน 11.6 ล้านบาท การตั้งสำรองหนี้สินผลประโยชน์พนักงานเพิ่มเติม จำนวน 9.9 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาด้านบัญชี ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนและอื่นๆอีกประมาณ 9 ล้านบาท
 
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บ. แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ RBF กล่าวว่า หลังจากหุ้น RBFเปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเป็นวันแรก ราคาได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นเหนือราคาจองซื้อที่ 3.30 บาท น่าจะมาจากปัจจัยหลายอย่างทั้งพื้นฐานของธุรกิจที่ดี เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ดำเนินธุรกิจทางด้านนวัตกรรมอาหารที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการเติบโตในอนาคตที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในภาพรวมยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย โดยดูจากยอดจองซื้อหุ้นที่ล้นหลามในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้หุ้นได้รับความนิยมและสนใจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจากศักยภาพของบริษัทที่ดีแล้ว บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% หลังหักภาษีเงินได้และค่าสำรองอื่นๆ จึงเชื่อว่าหุ้น RBF เหมาะสมในการลงทุนในระยะกลาง ถึงยาวได้
 
นายสมศักดิ์  ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ APM กล่าวว่า  หากประเมินจากปัจจัยพื้นฐานของ RBF แล้ว ถือได้ว่าบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) อย่างครบวงจรให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีจุดแข็งด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านอาหาร การวิเคราะห์กลิ่นและรสชาติอาหารอยู่ถึง 60 คน  และธุรกิจของบริษัทมีโอกาส Disrupt ยาก เพราะผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทดแทนกันได้ยาก ดังนั้นทำให้เชื่อว่าธุรกิจของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น  RBF เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.08 บาท คิดเป็น 23.63% จากราคาจองที่ 3.30 บาทก่อนที่จะ ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 4.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท (+24.24%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.30 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,193.73 ล้านบาท  ขณะที่การซื้อขายในช่งบ่ายราคาทยอยขึ้นต่อเนื่องก่อนที่จะทำราคาปิดของวันที่ระดับ 4.36 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 32.12% มูลค่าซื้อขาย 2,389,42 ล้านบาท
 
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) ราคาเป้าหมายที่ 4.52 บาท โดยคาดกำไรสุทธิปี 2562-2564 จะมีเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 13% จากแผนขยายกำลังการผลิตในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียในปี 2563 โรงงานใหม่ที่อินโดนีเซียน่าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในตลาดฮาลาลทั่วโลก และช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตไปพร้อมแนวโน้มตลาดฮาลาลที่แข็งแกร่งในอนาคตได้อีก และคาด RBF จะได้ประโยชน์จากตลาดเครื่องดื่มในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และการเก็บภาษีน้ำตาลซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตต้องใช้สารแทนความหวานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของบริษัท
RBF เป็นผู้ผลิตวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่คู่แข่งใหม่เข้าได้ยากเพราะผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเฉพาะกับลูกค้ารายนั้น ๆ RBF มีสินค้าที่ครบครัน รวมทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับผู้ผลิตอาหารชั้นนำและมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันทางต้นทุนด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ