นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำแร่เพอร์ร่า (Purra) ในเครือสิงห์ กล่าวว่า บริษัทได้เข้ามาทำตลาดน้ำแร่ภายใต้แบรนด์เพอร์ร่าประมาณ 8 ปี แต่ก็สามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดขายและส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 8 ปีที่ผ่านมาก็เติบโตมากกว่าตลาดรวมทุกปี และยิ่งในช่วง 6 ปีให้หลังมานี้เราเติบโตมากเป็นอันดับ 1 ในตลาด ด้วยกลยุทธ์ทางด้านการนำแฟชั่นเข้ามาผสมผสานด้วยการ ได้สร้างสรรค์ขวดรุ่น Limited Collection ร่วมกับดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าของประเทศไทยมาแล้วมากมาย อาทิ Disaya, Issue, Asava, Valtanika, Poem เป็นต้น ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของน้ำแร่เพอร์ร่ามีความแตกต่างจากน้ำแร่แบรนด์อื่นๆ ในตลาดอย่างชัดเจน อีกทั้ง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก และขายหมดอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด ปีนี้น้ำแร่เพอร์ร่าได้ทุ่มงบราว 40 ล้านบาท เปิดตัว “Limited Collection Autumn/Winter 2019” ซึ่งถือเป็นเกียรติและความภูมิใจอย่างสูงสุดในการ Collaborate กับแบรนด์ “SIRIVANNAVARI BANGKOK” โดยคอลเลคชั่นในครั้งนี้ มีทั้งหมด 3 ดีไซน์ภายใต้การถ่ายทอดความคิดและทัศนคติที่มีต่อโลกที่เป็นอิสระจากข้อจำกัดผ่านการผสมผสานสัญลักษณ์ S นกยูง และบทกวี ด้วย Limited Collection Autumn/Winter 2019 ขนาด 600 มิลลิลิตร วางจำหน่าย ตุลาคม-ธันวาคม 2562 จำนวนประมาณ 6 ล้านขวด หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท มินิบิ๊กซี เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ฯลฯ
สำหรับเป้าหมายของน้ำแร่เพอร์ร่าในปี 2562 นี้คาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท หรือมีปริมาณ 85 ล้านลิตร และมีส่วนแบ่งตลาดรวมอยู่ 23% เพิ่มจากปีที่แล้ว (2561) ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 17% ที่ยอดขายรวมปริมาณ 65 ล้านลิตร ส่วนปีหน้า (2563) เพอร์ร่าตั้งเป้าหมายจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดน้ำแร่ ด้วยอัตราการเติบโต 32% หรือมียอดขาย 1,700 ล้านบาท (ในเชิงปริมาณ 112 ล้านลิตร) จากปัจจุบันตลาดน้ำแร่มี 4 แบรนด์หลักที่แข่งขันกันอยู่ คือ 1. มิเนเร่ ส่วนแบ่ง 26.5%, 2. เพอร์ร่า ส่วนแบ่ง 22.8%, 3.ออร่า ส่วนแบ่ง 16.9% และ 4. มองต์เฟลอ ส่วนแบ่ง 16.2%
ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตลาดน้ำแร่ในไทยรอบเดือนสิงหาคม 2561-สิงหาคม 2562 มีมูลค่ารวมประมาณ 4,800 ล้านบาท หรือมีปริมาณ 311 ล้านลิตร (รวมเฉพาะแบรนด์ไทยและที่ผลิตในไทยเท่านั้น) ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมโตน้อยเฉลี่ยแค่ 7-8% เนื่องจากการแข่งขันโดยรวมยังคงมุ่งเน้นที่ราคาและโปรโมชัน รวมทั้งแข่งกันในเรื่องช่องทางจำหน่ายและเน้นเรื่องของฟังชันนัลความเป็นน้ำแร่แท้ และในส่วนของแบรนด์ เพอร์ร่า หากวัดเฉพาะส่วนแบ่งในช่วงสองเดือนล่าสุดคือ สิงหาคม-กันยายน 2562 นี้ สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดส่วนแบ่งมากที่สุด 31% แล้ว ขณะที่ยอดขายน้ำแร่เพอร์ร่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา (ตุลาคม 2561-ตุลาคม 2562) เติบโตถึง 40% และช่วง 9 เดือนแรกปี 2562 นี้มีส่วนแบ่งแล้ว 22.8%