‘สรรเสริญ’ กาง 3 แผนลุยออเดอร์ เพิ่มยอดส่งออกเจาะตลาดทั่วโลก

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

‘สรรเสริญ’ กาง 3 แผนลุยออเดอร์  เพิ่มยอดส่งออกเจาะตลาดทั่วโลก


นายสรรเสริญ สมะลาภา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บรรยายในงานสัมมนา “เดอะเน็กซ์ไทยแลนด์ 4.0 ทางออกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก” จัดโดย ธนาคารกรุงไทย และ ibusiness.co ว่าปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ทุกท่านทราบดีว่ามาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก

หลายสำนักปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2562 ลงมา จากเดิมคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัว 3.8% ปรับลงมาสู่ 3.3% เวลานี้ บางสำนักคาดการณ์เหลือ 2.8% อย่างไรก็ตาม รมว.พาณิชย์ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน โดยกำหนดแนวทางหลักไว้ 3 ประการคือ 1.สร้างรายได้จากฐานรากหรือจากล่างขึ้นบน 2.สร้างรายได้จากบนลงล่าง และ 3.การมองไปที่อนาคต

โดยหนึ่งในกลไกสำคัญของการสร้างรายได้จากฐานรากที่กระทรวงพาณิชย์กำลังขับเคลื่อนอยู่เวลานี้คือ นโยบายประกันราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวเปลือก ยางพารา น้ำมันปาล์ม มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลักการของการประกันราคาสินค้าเกษตรคือ ต้นทุนทั้งหมดรวมกำไรที่เกษตรกรพึงได้หักด้วยราคาตลาด มีส่วนต่างเท่าไหร่นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดราคารับประกัน โดยการประกันราคาข้าวเปลือกล็อตแรกจะถึงมือเกษตรกร ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เฉพาะในส่วนประกันราคาข้าวเปลือก มีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 3.9 ล้านครัวเรือน คิดเป็นประชากรที่ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น 11.48 ล้านคน ส่วนปาล์มน้ำมัน เงินประกันล็อตแรกถึงมือเกษตรกรเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพี่น้องเกษตรกรรับประโยชน์ 3 แสนครัวเรือน ยางพารา เงินประกันล็อตแรกออก 15 ตุลาคมนี้เช่นกัน มีเกษตรกรรับประโยชน์ 1.1 ล้านครัวเรือน ส่วนมันสำปะหลัง และข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์อยู่ระหว่างพิจารณากำหนดเกณฑ์ในการรับประกัน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีนโยบายพลิกฟื้นโชห่วยที่มีมากกว่า 4 แสนราย ให้เป็นสมาร์ทโชห่วย โดยจะสนับสนุนเรื่องรูปลักษณ์ การจัดวางสินค้า โปรแกรมบัญชี ฯลฯ และจะนำสินค้าโอท็อปที่มีอยู่ทั่วประเทศกระจายผ่านโชห่วย ซึ่งตรงกับนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบนโยบายต่อผู้บริหารระดับสูงที่ต้องการให้โชห่วยอยู่ได้

นโยบายลำดับสอง ที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการคือ ทำจากบนลงล่าง โดยเร่งรัดส่งออกด้วยยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ ขยายตลาดเดิม เปิดตลาดใหม่ และฟื้นตลาดเก่า ซึ่งได้จัดประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อกำหนดให้ทูตพาณิชย์ต้องทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนของประเทศ และต้องค้นหาให้ได้ว่า ประเทศที่ตัวเองไปประจำอยู่นั้น จะขายสินค้าอะไรได้ ขายให้ใคร และใช้วิธีอย่างไร สำหรับนโยบายกลุ่มที่สาม คือ ภาคธุรกิจต้องก้าวไปให้ทันกับเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น ไบโออีโคโนมี (เศรษฐกิจชีวภาพ) กรีนอีโคโนมี (เศรษฐกิจสีเขียว) แชรริ่งอีโคโนมี (เศรษฐกิจแบ่งปัน) ครีเอทีฟอีโคโนมี (เศรษฐกิจสร้างสรรค์) โดยจะเร่งให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ๆ ขึ้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ