นายซึโตมุ วาตะนาเบ้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการทำวิจัยตลาดพบว่ากลุ่มผู้บริโภคเริ่มกลับไปหวนสู่อดีตในยุคฟิล์ม ซึ่งอยากถ่ายภาพกล้องฟิล์มที่มีเสน่ห์แบบคลาสสิก ล่าสุด เราจึงได้เปิดตัว X-Pro3 กล้องที่ผสมผสานยุคฟิล์มและยุคดิจิตอลไว้ด้วยกันเป็น Digital Film Cameraเจาะกลุ่มคนรักการถ่ายภาพที่ชอบความคลาสสิกแบบกล้องฟิล์ม สำหรับกล้องรุ่น X-Pro3 ต่อยอดมาจากรุ่น X-Pro1 ที่เปิดตัวในปี 2012 และ X-Pro2 ที่เปิดตัวในปี 2016 ซึ่งรุ่นดังกล่าวนี้ได้พัฒนาคุณภาพของภาพให้ตอบสนองต่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพด้วยฟิล์มผสมผสานกับเทคโนโลยีส้ำสมัยขั้นสูงเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่มผู้บริโภคในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเทคโนโลยีของกล้อง X-Pro3 รุ่นนี้ ทางฟูจิฟิล์มจะชูเป็นรุ่นเรือธงสำคัญในการทำตลาดกล้องสำหรับมืออาชีพ”
ด้าน พรหมมินทร์ ชราเขตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอลระดับมืออาชีพ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน พบว่าผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาพกกล้องฟิล์มติดตัวกันมากขึ้น เห็นได้จากกระแสโลกโซเซียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจกล้องฟิล์มเป็นอย่างมาก ฟูจิฟิล์มในฐานะที่เป็นผู้ผลิตกล้องดิจิตอลและเป็นผู้ผลิตฟิล์มสีที่มีประสบการณ์ด้านภาพถ่ายทั้ง 2 ด้าน เราจึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์คนที่สนใจกล้องฟิล์มและยังไม่เคยใช้ ด้วยการพัฒนากล้องรุ่น X-Pro3 ที่ผนวกกล้องยุคฟิล์มและยุคดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็น Digital Film Camera ที่ตอบสนองการถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการนำเทคโนโลยีของแต่ละยุคมาใส่ไว้ใน X-Pro3 ทั้งในเรื่องคุณภาพของไฟล์ภาพที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของฟูจิฟิล์ม การดีไซน์ตัวกล้องให้มีความคลาสสิกนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาผนวกกับฟังก์ชั่นการทำงานแบบกล้องฟิล์มมาไว้ใน X-Pro3 ทำให้ได้อารมณ์เหมือนกลับไปใช้กล้องฟิล์มถ่ายภาพจริงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคลดลง ทำให้ลูกค้ากลุ่มคนในระดับกลางอาจจะมีผลกระทบจากสภาวะแบบนี้ แต่ขณะทีกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ยังคงมีกําลังซื้อปกติอยู่ ดังนั้นทางเราจึงได้หันมาปรับเปลี่ยนออกสินค้าเพื่อจับในกลุ่มระดับไฮเอนด์มากขึ้นในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันฟูจิฟิล์มมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ประมาณ 30% ซึงภายในปี 2565 คาดว่าจะมีสัดส่วนเพิมขึน เป็น 50%
ดังนั้น บริษัทจึงได้วางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์สำหรับกล้อง X-Pro3 ด้วยการสื่อสารแบบ Total Communicationทั้งสื่อ Onlineและ Offlineเพื่อให้การสื่อสารครั้งนี้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก ฟูจิฟิล์มจึงดึงKey Opinion Leader (KOL)ที่มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพกล้องฟิล์มมาถ่ายทอดฟังก์ชั่นของกล้อง X-Pro3ให้ถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพ โดยสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก และกลุ่มผู้ที่สนใจใช้กล้องโดยตรงสำหรับสื่อ Online นอกจากช่องทาง Facebook,Youtubeและ Instagram ที่เป็นช่องทางหลักเดิมแล้ว อีกทั้ง ยังได้ทำการเปิด LineOfficial Account: @FujifilmXThaiเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆให้กับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วยและในส่วนOffline ปีนี้เราเน้นการสื่อการแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง โดยบริษัทคาดว่าหลังจากเปิดตัวและวางจำหน่ายกล้องรุ่น X-Pro3 จะสามารถสร้างยอดได้ประมาณ 3,000 ตัวต่อปี
