“CAT” ประกาศยกระดับพัฒนาธุรกิจดาวเทียมประเทศไทย พร้อมขยายพื้นที่บริการเทคโนโลยี 5G รองรับสู่ “Digital Hub” ตามนโยบายประเทศไทย 4.0”

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“CAT” ประกาศยกระดับพัฒนาธุรกิจดาวเทียมประเทศไทย พร้อมขยายพื้นที่บริการเทคโนโลยี 5G รองรับสู่ “Digital Hub” ตามนโยบายประเทศไทย 4.0”


ธุรกิจดาวเทียมสื่อสาร หนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและก้าวหน้าของชาติเป็นอย่างมาก  เป็นที่จับตามองว่าปี 2564  เมื่อหมดสัมปทานดาวเทียมไทยคม และโอนทรัพย์สินกลับมาที่ภาครัฐคือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) แล้วหลังจากนั้นในก้าวต่อไป ประเทศไทยจะขับเคลื่อนแนวทางของดาวเทียมสื่อสารที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่สำคัญให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร 

หน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของประเทศไทยมานานกว่า 5 ทศวรรษคือ บมจ. กสท โทรคมนาคม (CAT) นับเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความพร้อมในการรับช่วงการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสาร ซึ่งเป็นระบบโครงข่ายที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580)

พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์  กรรมการผู้จัดการใหญ่  CAT กล่าวว่า แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวไปไกลแค่ไหน แต่การสื่อสารผ่านดาวเทียมยังคงมีบทบาทเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมที่สำคัญ โดยในอนาคตจะเป็นโครงข่ายที่พลิกโฉมการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ตอบสนองกับเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลยุค 5G รองรับอุปกรณ์ไอโอทีจำนวนมหาศาลที่เกิดจากการยกระดับความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่าง ๆ ทั้งบ้านอัจฉริยะ สมาร์ตซิตี้ การใช้งานในลักษณะเคลื่อนที่ต่าง ๆ รวมไปถึงแนวโน้มการใช้งานหลากหลายที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การผ่าตัดทางไกล,  การควบคุมเครื่องจักรในโรงงาน หรือการควบคุมรถยนต์ไร้คนขับ เป็นต้น

ยิ่งการพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพิ่มความสำคัญ พื้นที่ความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะยิ่งขยายกว้างขึ้น ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน พื้นน้ำและผืนฟ้าซึ่งระบบสื่อสารภาคพื้นดินในปัจจุบันไม่สามารถรองรับได้อย่างทั่วถึง จำเป็นที่ประเทศต้องนำการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่มีศักยภาพรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ได้มหาศาลเข้ามาเสริม เพื่อให้เทคโนโลยี 5G เข้าถึงได้ในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึงซึ่งวันนี้เทคโนโลยีดาวเทียมยุคใหม่ได้พัฒนาศักยภาพให้รองรับความเร็วของเทคโนโลยี 5G ได้ทันที

ทั้งนี้ การพัฒนาดาวเทียมสื่อสารย่านวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit : LEO) ความสูงจากพื้นโลกประมาณ 2,000 กิโลเมตร ได้ลดจุดด้อยในเรื่องค่าความหน่วง โดยภาคพื้นดินสามารถรับสัญญาณได้ในเวลาต่ำกว่าเสี้ยววินาทีซึ่งเป็นความเร็วที่ไม่มีดาวเทียมดวงใดในสมัยก่อนทำได้ จึงรองรับการสื่อสารข้อมูลเรียลไทม์อย่างดี  อีกทั้งมีการพัฒนาดาวเทียม High Throughput Satellite ซึ่งส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ด้วยความเข้มของสัญญาณสูง และสามารถรองรับแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่เพื่อให้บริการบรอดแบนด์และ 5G  ส่งผลให้ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมสามารถให้บริการได้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูง การส่งสัญญาณโทรทัศน์ด้วยเทคโนโลยีภาพที่คมชัดมากขึ้น รวมถึงการสำรวจ การนำทาง และการถ่ายภาพที่มีความชัดเจนในระดับสูงมาก

“CAT เล็งเห็นว่าปัจจัยต่าง ๆ และความเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงเป็นโอกาสที่จะยกระดับพัฒนาธุรกิจดาวเทียมให้ตอบสนองการพัฒนาประเทศตามนโยบายรัฐบาล  โดยเชื่อมั่นว่าทรัพยากรที่หน่วยงานมีอยู่ ทั้งสถานีดาวเทียมภาคพื้นดินให้บริการระดับนานาชาติด้วยมาตรฐานสากลถึง 3 แห่ง คือ สถานีดาวเทียมศรีราชา สถานีดาวเทียมนนทบุรี และสถานีดาวเทียมสิรินธร  รวมถึงบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจสื่อสารดาวเทียมโดยตรงร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการดาวเทียมทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนานจะสามารถสนับสนุนศักยภาพรัฐบาลในการพัฒนาระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมและขยายพื้นที่บริการเทคโนโลยี 5G ได้อย่างรวดเร็วทันต่อความต้องการของประเทศ  และให้บริการเพิ่มมูลค่าธุรกิจ รวมถึงต่อยอดศักยภาพรองรับความเป็น Digital Hub ตามนโยบายประเทศไทย 4.0

กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT กล่าวต่อ ปัจจุบัน CAT ให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมครอบคลุมพื้นที่ในประเทศไทยและต่างประเทศทั่วโลก อาทิ บริการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ กอล์ฟ ฟุตบอลโลก กีฬาอื่นๆ ถ่ายทอดการประชุมระดับนานาชาติ และการสื่อสารเพื่อช่วยประชาชนในพื้นที่ประสบภัย รวมไปถึงบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ด้วยระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมดวงต่าง ๆ ทั้งในและระหว่างประเทศ อาทิ THAICOM, ASIASAT, INTELSAT ครอบคลุมโซนมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก  อีกทั้ง CAT ยังเป็นสมาชิกหน่วยงานด้านโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  อาทิ  Asia-Pacific Telecommunity (APT), INTELSAT 

สำหรับแผนต่อยอดการให้บริการผ่านดาวเทียมของ CAT ในส่วนของการถ่ายทอดสัญญาณ (Broadcast) จะพัฒนาบริการ OTT ผ่านดาวเทียมรองรับการใช้งานแบบ Mobility เพิ่มความสะดวกในการรับชมผ่านหน้าจอโมบายดีไวซ์ต่าง ๆ และสำหรับบริการด้านบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมประจำที่ (Fixed Satellite) ซึ่งเป็นบริการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในที่ทุรกันดารห่างไกล เช่น ภูเขา ทะเล ซึ่งไฟเบอร์ออปติกไปไม่ถึง ล่าสุดได้ขยายจากลูกค้ากลุ่ม Oil & Gas ไปยังกลุ่มอื่น ๆ เช่น ธุรกิจเดินเรือ ธุรกิจเรือสำราญ ธุรกิจการบิน ฯลฯ  

ธุรกิจดาวเทียมยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในยุค 5ในกระแสโลกยุคใหม่การสื่อสารดาวเทียมคืออนาคตที่มีบทบาทสำคัญไม่เพียงในการพัฒนาประเทศ แต่ทั่วโลกขณะนี้มุ่งใช้ประโยชน์จากดาวเทียมสื่อสารและแข่งขันในการจับจองทำเลทองในห้วงอวกาศ  โดย CATอยู่ระหว่างเจรจาร่วมเป็นพันธมิตรในเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO Satellite) รายใหญ่ของโลกเพื่อพัฒนานวัตกรรมบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมโดยใช้พื้นที่สถานีดาวเทียมภาคพื้นดินของ CAT ให้เป็นสถานีเกตเวย์ของกลุ่มเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำครอบคลุมทั่วโลกกว่า 800 ดวง ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการของประเทศในการใช้งานข้อมูลผ่านดาวเทียมขนาดใหญ่และ 5G ได้ทันที พร้อมทั้งได้เจรจาพันธมิตรกับ UTELSAT ผู้ให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์   (High Throughput Satellite : HTS) เพื่อเพิ่มรัศมีการให้บริการที่ครอบคลุมได้ทั่วโลก   

พันเอก สรรพชัย กล่าวปิดท้ายว่า แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวไปไกลแค่ไหน การสื่อสารดาวเทียมก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดย CAT พร้อมนำประสบการณ์กว่า 50 ปี เดินหน้าต่อยอดในการพัฒนากิจการดาวเทียมทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค   รักษาวงโคจรของประเทศไทยให้คงอยู่อย่างมีคุณค่า เพิ่มมูลค่าธุรกิจดาวเทียมเพื่อเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงของประเทศในระยะยาวให้ทัดเทียมต่างชาติ

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ