นายเนวินธุ์ช่อชัยทิพฐ์ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เปิดเผยในงานมอบรางวัลSmart Thailand Award 2019 ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลก้าวขึ้นมามีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกคาดการณ์ว่าในปี2565 เศรษฐกิจดิจิทัลจะก้าวขึ้นมามีสัดส่วน60% ของตัวเลขGDP ทั่วโลกดังนั้นประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือยุคDisruptive เชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัลเข้ากับเพื่อนบ้านในภูมิภาคและในระดับโลก
“ในปี2563 กระทรวงดีอีมีแผนผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มที่ทั้งการค้าผ่านโลกออนไลน์มีกองทุนพัฒนาดิจิทัลให้ชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะภาคเกษตรกรตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ20 ปีระบุว่าจะต้องส่งเสริมเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ให้เกษตรกรนำไปสู่การลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตเพิ่มรายได้โดยมีภาคเอกชนขนาดใหญ่เข้าช่วยพัฒนาในชุมชนเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำครอบคลุมdemand-supply”
นายเนวินธุ์ กล่าวต่อว่าขณะที่แผนพัฒนาดิจิทัลระดับชาตินั้นตั้งเป้าผลิตบุคลากดิจิทัล180,000 คนภายใน3 ปีโดยเฉพาะบุคลากรทักษะสูงเพราะประเทศไทยกำลังจะมีดิจิทัลวัลเลย์(Digital Valley) เป็นฮับดิจิทัลของอาเซียน(Digital hub of ASEAN) ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาให้แล้วเสร็จใน3-4 ปีซึ่งจะมีทั้งอาคารศูนย์การเรียนรู้ดิจิทัลย่านธุรกิจดิจิทัลไปจนถึงพื้นที่Creative Zone ที่สร้างสรรค์มากที่สุดในประเทศทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่700 กว่าไร่ที่อำเภอศรีราชาโดยจะมีรถไฟความเร็วสูงเข้าถึงและจะดึงดูดบริษัทด้านดิจิทัลชั้นนำของโลกมารวมในเมืองดังกล่าว
“การเตรียมบุคลากรนั้นต้องเน้นการเสริมทักษะใหม่(upskill) คือการเสริมทักษะเพิ่มเติมในความเชี่ยวชาญเดิมในบริบทใหม่ควบคู่ไปกับการเพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น(reskill) คือการพัฒนาทักษะทั้งหมดรวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ตลอดจนการเพิ่มทักษะใหม่(new skill) เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล”