บล.บัวหลวง แนะใช้“หลักการจัดสรรพอร์ตลงทุน”รับมือตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน

วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563

บล.บัวหลวง แนะใช้“หลักการจัดสรรพอร์ตลงทุน”รับมือตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน


หลักทรัพย์บัวหลวง เปิดกลยุทธ์การลงทุน พิชิตตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน ด้วย “หลักการ Asset Allocation” เน้นกระจายเงินลงทุนใน 5 สินทรัพย์หลัก เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง พร้อมเผยธีมการลงทุนเด่นปี 63 รับมือปัจจัยลบในต่างประเทศ

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์    บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในภาวะผันผวนต่อเนื่องมาจากปี 62 จากภาวะความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน และปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้วระดับหนึ่ง หลังสหรัฐฯได้ลงนามข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกกับจีนอย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่ยังคงต้องจับตาดู 2 ประเด็นอย่างใกล้ชิด คือ 1.สหรัฐฯและจีน    จะสามารถบรรลุข้อตกลงเฟส 2 เรื่องที่จะให้จีนเปิดตลาดการเงินและสิทธิทางปัญญาได้ภายในปีนี้หรือไม่ และ 2.สงครามตะวันออกกลาง ซึ่งเรื่องนี้ยากต่อการคาดเดา

ท่ามกลางปัจจัยลบของต่างประเทศ ผู้ลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการลงทุน แนะนำให้ใช้หลักการ “จัดสรรพอร์ตการลงทุน” หรือ Asset Allocation เพื่อรักษาระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ  เห็นได้จากพอร์ตลงทุนปี 62 ของหลักทรัพย์บัวหลวงที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีอีกครั้ง โดยพอร์ตลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม (Conservative) ,แบบความเสี่ยงปานกลาง (Moderate) และแบบเชิงรุก (Aggressive) มีผลตอบแทนนับจากต้นปี 62 ถึงปลายปีที่ระดับ 7.1% ,10.4% และ 14.0% ตามลำดับ สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงเดือนก.พ.62 ที่ระดับ 3.2%, 5.1% และ 7.2%

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในช่วงนี้ควรเน้นกระจายความเสี่ยงออกไปใน 5  สินทรัพย์หลัก คือ 1. ตลาดหุ้น สัดส่วนลงทุนประมาณ 23% แบ่งเป็นหุ้นไทยประมาณ 9% หุ้นเวียดนามประมาณ 9% และหุ้นสหรัฐฯประมาณ 5% ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีอัพไซด์ค่อนข้างจำกัด เพราะกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 63 อาจขยายตัวได้ไม่มากนัก ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนาม และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีโมเมนตัมที่ดี

โดยเฉพาะตลาดหุ้นเวียดนาม เราคาดว่าในปี 63 อาจมีกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเข้ามาต่อเนื่อง เพราะเวียดนามเป็นประเทศปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการลงทุนจากต่างชาติในเอเชีย หลังกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนามได้สนับสนุนให้มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง, พลังงาน และการส่งออก เป็นต้น

2. กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าและค้าปลีก สัดส่วนลงทุนเฉลี่ย 13% หลังส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างดัชนีกองทุนรวมอสังหาฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี อยู่ระดับ 3.28% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 4 ปี 1.6 เท่า 3.ทองคำ สัดส่วนลงทุนเฉลี่ย 16% เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเติบโตเศรษฐกิจขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ และเหตุการณ์สงคราม จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณ คาดว่าในเดือนม.ค.นี้ ราคาทองคำจะแกว่งในกรอบ 1,491-1,620 เหรียญต่อออนซ์  4.ตลาดเงิน สัดส่วนลงทุนเฉลี่ย 6% และ 5.หุ้นกู้ภาคเอกชนระดับ BBB+ขึ้นไป สัดส่วนลงทุนเฉลี่ย 42%

กูรูด้านการลงทุน กล่าวถึงมุมมองตลาดหุ้นไทยปี 63 ว่า ดัชนีอาจแกว่งตัวเหมือนปีก่อน โดยให้กรอบบนที่ระดับ 1,680-1,695 จุด บนค่า P/E 16.5 เท่า และกรอบล่างระดับ 1,480-1,500 จุด บนค่า P/E 14.5 เท่า ส่วนกำไรต่อหุ้น (ESP) ของบริษัทจดทะเบียนอาจอยู่ระดับ 102 บาทต่อหุ้น เติบโตประมาณ 22% จากปี 62 ที่อยู่ระดับ 83 บาทต่อหุ้น

สำหรับธีมการลงทุน เน้นลงทุนในหุ้น 3 กลุ่ม คือ 1.หุ้นที่มีความปลอดภัย (Defensive Stock) เช่น กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ (หุ้นรถไฟฟ้า) ,กลุ่มโรงไฟฟ้า ,กลุ่มหุ้นค้าปลีก และกลุ่มไฟแนนซ์  2.กลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มน้ำมันที่จะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตของโลก 3.กลุ่มรับซื้อและปรับโครงสร้างหนี้  เช่น หุ้น BAM ,หุ้น JMT และหุ้น CHAYO ส่วนกลุ่มที่ต้องใช้ความระมัดระวัง คือ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเรื่องความต้องการซื้อชะลอตัว และกลุ่มธนาคารที่ต้องระวังเรื่องการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

“มอร์แกน สแตนลีย์ วิเคราะห์ว่า ภาวะตึงเครียดของตะวันออกกลาง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดว่าปีนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ระดับเฉลี่ย 62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับปีก่อนที่อยู่ระดับ 58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ อาจอยู่ระดับเฉลี่ย 68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล” นายชัยพร กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ