บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT โชว์งบปี 2562 กวาดรายได้ 480.57 ลบ. เติบโต 27.28% จากปีก่อน ฟันกำไรสุทธิ 50.94 ลบ. พุ่ง 407.74% จากปีก่อน หลังปริมาณงานบริการทดสอบโดยไม่ทำลายเพิ่มขึ้น-คว้างานใหญ่ตรวจสอบและทดสอบงานซ่อมบำรุง ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.30 บ./หุ้น ชงผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ 9 เม.ย.63 กำหนดจ่าย 29 เม.ย.63 พร้อมกางแผนธุรกิจปี 2563 เน้นกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้า-ลุยประมูลงานเพิ่ม
นายโดมเดช ศรีพิณเพราะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2562 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 480.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.28% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 407.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในปี 2562 ของบริษัทฯเติบโตอย่างโดดเด่น เป็นผลมาจากงานบริการของบริษัทฯ เริ่มฟื้นตัวจากภาวะที่ซบเซาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากอุตสาหกรรมงานก่อสร้างมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้งานบริการทดสอบโดยไม่ทำลายมีปริมาณเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับงานตรวจสอบและทดสอบงานซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปีของลูกค้ากลุ่มโรงกลั่นน้ำมันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นโปรเจคขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูง ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากเดิม
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาจากนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ ประกอบกับการลงทุนในปี 2562 รวมถึงกำไรคงเหลือที่ยังไม่จัดสรร ที่ประชุมจึงได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน ประจำปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยบริษัทฯได้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดผลดำเนินงาน 1 มกราคม 2562-30 มิถุนายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทฯคงเหลือจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2 (งวดผลดำเนินงาน 1 กรกฎาคม 2562 -31 ธันวาคม 2562) ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2563, วัน Record Date ในวันที่ 10 มีนาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2563 โดยจะมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติปันผลในวันที่ 9 เมษายนนี้
กรรมการผู้จัดการ QLT กล่าวอีกว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2563 บริษัทฯจะเน้นกลยุทธ์การรักษาฐานลูกค้า พร้อมกับเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าอุตสาหกรรมงานก่อสร้างใหม่ของลูกค้าในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีและงานโครงการอื่นยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้าในกลุ่ม Fabrication และเชื่อว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยังมีการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ EEC ในส่วนของบริษัทฯ ก็ยังคงหาโอกาสในการเพิ่มชนิดบริการให้มากขึ้น รวมถึงโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่น ขณะที่ในส่วนงานต่างประเทศปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างกำลังศึกษาการลงทุนใหม่ๆเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้หลากหลาย และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยบริษัทฯตั้งเป้ารักษาฐานรายได้ในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน
