นาย ซึโตมุ  วาตะนาเบ้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง และจากปัจจัยเรื่องไวรัสที่เกิดขึ้น เป็นต้น ทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยังมีความเชื่อมั่นในตลาดไทยและยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยยังถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญที่สุดในแถบเซาท์อีสเอเชีย และจากกระแสในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกับเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางโลกโซเซียลมีเดีย การถ่ายวิดีโอเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเห็นได้จากพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปจากที่ชอบถ่ายภาพนิ่ง ก็เริ่มหันมาถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับการเล่าเรื่องราว ไลฟ์สไตล์ ความชอบและกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันแล้วแชร์ลงโซเชียลมากขึ้น ทำให้เห็นว่าเทรนด์การเติบโตของ Content Creator  กำลังมาแรง

ทั้งนี้ ฟูจิฟิล์มในฐานะผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลจึงได้คิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีระบบ AI Technology อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่  X-T200  ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ “Smart Mirrorless V” ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ให้สอดคล้องกับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

นายสิทธิเวช  เศวตรพัชร์  ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส  ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง  บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมสถานการณ์ปีนี้บริษัทมีความกังวลเช่นกันในเรื่องของกำลังซื้อของผู้บริโภคที่คาดว่าน่าจะหดตัวลงมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์เรื่องของไวรัศโควิด 19 ที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ที่เชื่อว่าจะส่งผลกระทบไปในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจับจ่ายซื้อขายในประเทศเองที่ลดลงและนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศที่หายไป ร้านค้าขายของไม่ได้ ซึ่งปัจจัยทุกอย่าง ๆ ก็จะส่งผลกระทบกันเป็นโดมิโนต่อเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวม 

ประกอบกับเราเองยังต้องสู้กับผู้ผลิตกล้อง DSLR เจ้าใหญ่ที่กำลังลงมาเล่นตลาดกล้องกลุ่มมิลเลอร์เลสด้วย เพราะยอดขายกล้องใหญ่ตกลงมากเเละฟื้นคืนยาก อีกทั้งผู้บริโภคในกลุ่มที่ยังนิยมใช้มือถือสมาร์ทโฟนถ่ายรูปเเทนกล้องใหญ่ก็ยังคงมีอยู่จำนวนมาก ที่เราจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มเหล่านี้หันมาลองซื้อกล้องในการถ่ายรูปด้วยเพิ่มจากการใช้เฉพาะมือถือในการถ่ายเท่านั้น ดังนั้นปัจจัยทั้งหมดนี้ถือเป็นความท้ายทายอย่างมากในการทำตลาดของฟูจิฟิล์มในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทย โดยในปี 2562 มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่190,000ตัว มูลค่าตลาดประมาณ 5,800 ล้านบาท รวมกล้องคอมแพค กล้องดีเอสแอลอาร์และกล้องมิลเลอร์เลส  โดยมีอัตราการเติบโตติดลบ ประมาณ -29% ในเชิงปริมาณ และติดลบ -28% เชิงมูลค่า สำหรับกล้องมิลเลอร์เลส อัตราการเติบโตในปี 2562 ซึ่งตลาดโดยรวมจำนวนตัว ประมาณ 117,000 ตัว ติดลบประมาณ -29% ในแง่จำนวนตัว และ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,900 ล้านบาท ลดลงประมาณ -20% เมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่กล้องดีเอสแอลอาร์ จำนวนตัวประมาณ 3,400  มีอัตราลดลงถึง -36%  เมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่กล้องมิลเลอร์เลสเชิงมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท  มีสัดส่วนลดลงถึง -44% และกล้อง 

“สาเหตุหลักของการเติบโตที่ลดลงนั้นเกิดจากการที่ผู้บริโภคได้ปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอล มาเป็นการถ่ายภาพโดย Smart Phone โดยคำนึงถึงความง่ายในการใช้งานผ่านทางสั่งการแบบ Easy GUI และความสะดวกในการแชร์ภาพ หรือไฟล์ วีดีโอไปยังโซเชียลมีเดีย เข่น FB, Line และ Instagram  ถึงแม้ว่าคุณภาพไฟล์ที่ได้รับจาก Smart Phone นั้นไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจและความต้องการจากผู้บริโภคได้เท่ากับการถ่าพภาพด้วยกล้องดิจิตอลที่อยู่ในตลาดทั่วไป จากแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงนี้ มีผลโดยตรงต่อ Demand ของกล้องดิจิตอลที่ไม่แต่เพียงปีนี้ แต่ยังจะส่งผลใปในปีต่อๆ ไปด้วย ฟูจิฟิล์มยังคงเดินหน้าลุยตลาดกล้องดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง โดยได้คิดและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด”

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับการสำรวจตลาดล่าสุด ในเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์มยังคงเป็นผู้นำตลาดโดยมีส่วนแบ่งการตลาดกล้องมิลเลอร์เลสที่ 43% เชิง ปริมาณ และ 34% เชิงมูลค่า  และในปีนี้ฟูจิฟิล์มตั้งเป้าหมายที่ท้าทายโดยต้องการส่วนแบ่งการตลาดของกล้องมิลเลอร์เลสเป็น 50%  พร้อมเตรียมวางแผนการตลาดออกกล้องดิจิตอลและเลนส์รุ่นใหม่ ๆ  ครอบคลุมทุก segment ตั้งแต่ระดับผู้เริ่มใช้ และขยายไปยังกลุมระดับกลาง ทีเป็นกลุ่มใหม่ Vlogger และ YouTuber ขณะตลาดบนได้รับความสำเร็จจาก XPRO3 และ GFX Series ในกลุ่มมืออาชีพ

ล่าสุด บริษัทจึงได้ทุ่มราว 20 ล้านบาท ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องดิจิตอล FUJIFILM X-T200 ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่  “Smart Mirrorless V” จับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมเป็น Vlogger และ Youtuber โดยกระแสการถ่ายคลิปวิดีโอเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับ FUJIFILM X-T200 ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับการใช้งานวิดีโอมากขึ้น ตอบโจทย์ด้วย ฟังก์ชั่น “Smart Vlogger” โดยสามารถถ่ายวีดิโอ Full HD high speed Movie และ HDR Movie และโดดเด่นด้วย ฟังก์ชั่น Digital Gimbal มาใส่ในตัวกล้องเพื่อช่วยลดการสั่นไหวขณะบันทึกวิดีโอ ทำให้ได้ภาพที่นิ่งและนุ่มนวล พร้อมจอภาพขนาดใหญ่ถึง 3.5 นิ้ว ซึ่งเหมาะสำหรับ  Vlogger และ Youtuber เป็นอย่างมาก โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ราว 1000-1500 ตัว/เดือน คาดว่าจะมาจากสัดส่วนลูกค้าที่เป็น Vlogger และ YouTuber 70 % และคนทั่วไป 30 %

สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกล้อง “Fujifilm X-T200” ปัทมาพร จันทร์จารุกุลกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง ได้กล่าวเสริมว่า “เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญ Smart Mirrorless บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสื่อสารแบบ Total Communication ทั้งสื่อ Online และ Offline  และในครั้งนี้ฟูจิฟิล์มได้มุ่งเน้นการสื่อสารกับกลุ่ม Content creator  หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านคลิปวิดีโอเป็นหลัก ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ของ Fujifilm X-T200 “Smart Mirrorless V”