นางสาว อรวดี สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกอม บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายขนมและของว่างแบรนด์ชั้นนำ ในกลุ่มลูกอมแบรนด์ ฮอลล์ (HALLS) ,คลอเร็ท(Clorets), 'ซาวร์ แพ็ทช์' (Sour Patch) กล่าวว่า สำหรับสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีที่ผ่านมาและเหตุการณ์ไวรัสโควิค19 ระบาดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางบริษัทเราไม่ได้มีความกังวลเท่าไหร่นัก เนื่องจากสินค้าของเราเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างลูกอมที่ต้องบริโภคทุกวัน และมีราคาไม่ได้แพงมาก อีกทั้งเรามีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ประกอบกับพฤติกรรมคนไทยนิยมบริโภคลูกอมกันเกือบทุกวันหลังอาหารเพื่อต้องการดับกลิ่นปาก หรือเพื่อความสดชื่อระหว่างวัน เป็นต้น และมีอัตราการซื้อสินค้าจำพวกลูกอมประมาณอาทิตย์ละครั้ง และชื่นชอบการซื้อลูกอมรสชาติใหม่ๆ ทดลองอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงส่งผลให้ตลาดลูกอมในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปีที่ผ่านมาตลาดลูกอมตลาดลูกอมในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 5.5% โดยแบ่งออกเป็น 6 เซกเมนต์ ได้แก่ ลูกอมเม็ดแข็ง 40% เยลลี่เคี้ยวหนึบ 19% ลูกอมเคี้ยวหนึบ 15% ลูกอมอัดเม็ด 19% โลลิป็อป 5% และ มาร์ชเมลโลว์ 2% โดยแบรนด์ฮอลล์ของเราจัดอยู่ในเซกเมนต์ลูกอมเม็ดแข็ง ที่ยังคงเป็นเบอร์ 1 ของตลาดลูกอมด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 23% (ในแง่ของยอดขาย) ซึ่งลูกอมฮอลล์เป็นที่รู้จัก และคุ้นเคยของกลุ่มวัยทำงานมายาวนานถึง 54 ปี
ล่าสุด “ฮอลล์” จึงได้ปรับโฉมและกลับมาเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์โดยการนำดารามาใช้อีกครั้งในรอบ 33 ปี หลังจากที่ไม่เคยได้ใช้พรีเซนเตอร์มาอย่างยาวนาน เนื่องจากปีนี้เราวางแผนต้องการเจาะกลุ่มเจเนอเรชั่น Z (Gen Z) มากยิ่งขึ้น โดยได้เปิดตัว ฮอลล์ เอ็กซ์เอส มินท์ (HALLS XS MINTS) 3 รสชาติ คือ กลิ่นสตรอว์เบอรี่ กลิ่นองุ่น และกลิ่นแตงโม มาในแพ็คเกจลวดลายสีสันสดใสที่ถูกออกแบบมาให้ดูสนุกสนาน และเฟรนด์ลี่ ภายใต้คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรสชาติ เพื่อให้เกิดการจดจำที่รวดเร็ว และเพื่อเป็นการตอกย้ำคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนของผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำกลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ มาร์เก็ตติ้ง เข้ามาใช้ โดยได้คู่รักซูเปอร์สตาร์ไอดอล อย่าง “เจเจ กฤษณภูมิ” และ “ต้าเหนิง กัญญาวีร์” ซึ่งต้องบอกว่าทั้งสองคนเป็นตัวแทนกลุ่มคนเจน Z ที่ตรงกับคอนเซ็ปต์และกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ภายในปีนี้บริษัทได้วางแผนงบการตลาดรวมทุกแบรนด์ไว้ราว 20 ล้านบาท โดยนำมาใช้ราว 40 ล้านบาท ทำการตลาดเฉพาะ “ฮอลล์ เอ็กซ์เอส มินท์” ทั้ง 3 รสชาติ รุกทุกแพลตฟอร์ม ทั้งในส่วนของออนไลน์ และออฟไลน์ พร้อมเตรียมจัดขบวนแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1 ล้านชิ้น และออกภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่นำแสดงโดยพรีเซ็นเตอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นต้น โดยบริษัทคาดว่าสินค้าตัวใหม่นี้จะสามารถช่วยผลักดันยอดขายโดยรวมของในกลุ่มแบรนด์ฮอลล์โตขึ้นราว 5 % และบริษัทวางแผนจะออกสินค้าในกลุ่มลูกอมอีกประมาณ 2-3 ตัวในปีนี้
