หากมองในแง่การลงทุนในอาเซียน เสือใหญ่ที่บอกว่าตัวเองกำลัง เนื้อหอมสุดๆ ในตอนนี้น่าจะเป็น "อินโดนีเซีย" เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ ใหม่สด ที่มีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน
มองต่อไปเรื่อง "AEC" เกิดขึ้น เมืองไทยจะมีนักลงทุนแห่กันเข้ามาจนน่ากลัว แต่จริงๆ อย่าลืมว่า ต่างชาติได้เข้ามาลงทุนในบ้านเราตั้งนานแล้ว จึงไม่น่าห่วงกับการรับมือที่ว่านี้
อีกทั้ง หากจะมองให้มันเป็นโอกาส ก็คือการออกไปสู่ 9 ประเทศที่มีตลาดใหม่ๆ สดๆ อยู่หลายที่ แต่อันที่จริงแล้ว ก็คงต้องมองไกลไปทั้งเอเชีย เนื่องจากยังมีโอกาสอยู่อีกมากเช่นกัน
กลับมาที่ "เสือ" ไม่นานมานี้ มีการระบุว่า สำนักงานส่งเสริมการประชุม การจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการ หรือ "ทีเส็บ" ระบุว่า ตลาดการจัดประชุม สัมมนาฯ หรือ "ไมซ์" ในเอเชียกำลังเติบโตดี และเป็นเป้าหมายของปีนี้ที่จะทำการเจาะตลาดแบบถึงตัวใน 5 ประเทศ หรือ "5 เสือเอเชีย"
ในปีที่ผ่านมา ตลาดไมซ์ของประ- เทศไทย มีสัดส่วนหลักจากประเทศในเอเชียถึง 65% คิดเป็นผู้เดินทางกว่า 4.7 แสนคน รายได้กว่า 4.2 หมื่นล้านบาท จนกล่าวได้ว่าเป็น "ยุคแห่งไมซ์เอเชีย" โดยประเทศที่มีการเดินทางเข้ามา มากที่สุดคือ อินเดีย รองลงมาคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์
ปี 2555 ตลาดไมซ์โดยรวมในประเทศไทย มีผู้เดินทางเข้ามาประมาณ 8.9 แสนราย รายได้ 7.9 หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 9.4 แสนล้านคน รายได้ 8.78 หมื่นล้านบาท และเอเชียจะเป็นตลาดที่สำคัญ โดยเฉพาะ 5 เสือเอเชีย ซึ่งทีเส็บได้แบ่งกลยุทธ์ตามความเหมาะสมของตลาด
เริ่มจาก "อินเดีย" จะเน้นกลยุทธ์ขยายตลาดสู่ตลาดเศรษฐกิจใหม่ ทั้งเมือง คอมบาตอร์ เมืองมังกาลอร์ และเมืองปูเน่ หลังจากประสบความสำเร็จจากเมือง หลักอย่าง มุมไบ เดลลี และบังกาลอร์มาแล้ว จนปีที่ผ่านมา มีไมซ์จากอินเดียถึง 7.4 หมื่นคน รายได้ 6.6 พันล้านบาท
ตลาด "จีน" ซึ่งเป็นสัญชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากที่สุดในปีที่ผ่านมา และยังเติบโตขึ้นต่อไป ตลาดไมซ์จะทำ การเน้นกลยุทธ์การรักษาตลาดเดิม โดยจับกลุ่มการจัดงานขนาดใหญ่ และใช้กลไกภาครัฐในการสนับสนุน
โดยมุ่งไปที่ 5 ธุรกิจใหญ่ๆ ให้มาทำการประชุมสัมมนาในประเทศไทย ประกอบด้วย กลุ่มบริษัทขายตรง อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ การเงินการธนาคาร และกลุ่มบริษัทประกันภัย
จากจีนข้ามมา "ญี่ปุ่น" ทางทีเส็บ เขาจะทำการกระชับความสำคัญระดับเมือง เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้เข้าเป็นพันธมิตรกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมในเมืองต่างๆ มาแล้ว 3 เมือง คือ ฟูกุโอกะ โอซาก้า เซนได ล่าสุด เมื่อ ต้นปีกับเมืองซัปโปโร และมีแผนจะลงนามกับเมืองโอกินาวาต่อไป
ขาดไม่ได้คือตลาด "เกาหลี" ทีเส็บก็ได้เข้าลงนามความร่วมมือกับทางสมาคมผู้จัดงานแห่งประเทศเกาหลีและมหาวิทยาลัยชั้นนำอีก 5 แห่ง ในการพัฒนาบุคลากรตลาดไมซ์ร่วมกัน
อีกตลาดคือ "สิงคโปร์" ทีเส็บจะเน้นทำรายการส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทการบินไทย สำนักงานสิงคโปร์ และเปิดตัวแคมเปญ "OptiMICE Pass" โดยนำเสนอค่าโดยสารในอัตราพิเศษ เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดไมซ์เอเชียจะเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นเป็น 5.1 แสนคน รายได้ 4.7 หมื่นล้านบาท โดยมาจาก 5 เสือที่เติบโตขึ้นราว 10%