ECF โชว์ผลงาน Q1/63 รายได้ 296.39 ล้านบาท

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ECF โชว์ผลงาน Q1/63  รายได้  296.39 ล้านบาท


“อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค” โชว์ผลประกอบการ Q1/63 รายได้รวม 296.39 ล้านบาท กำไรสุทธิ 17.11 ล้านบาท เติบโต 1.06 % ผลจากบริหารต้นทุนขาย พร้อมรับรู้กำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าดันมาร์จิ้นเพิ่ม เผยลุยขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เพิ่มยอดขาย ตลาดต่างประเทศ พร้อมเจรจาลูกค้าใหม่ย้ายฐานการผลิต

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/63 ที่ผ่านมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส    โควิด-19  ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ตลาดในประเทศ ได้รับผลกระทบจากกลุ่มลูกค้า Hypermarket ที่ต้องปิดสาขาชั่วคราว  โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพิ่มจำนวนสินค้าเพื่อเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์ www.elegathai.com และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ให้มากขึ้นจากเดิม ซึ่งช่วงที่ผ่านมาแนวโน้ยอดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมพัฒนารูปแบบสินค้าเฟอร์นิเจอร์เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้มากขึ้น สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ยังสามารถเติบโตได้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น มีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนคำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหม่ที่เริ่มสั่งซื้อกับบริษัทมีการหยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากการปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คาดว่าหากอินเดียเริ่มเปิดประเทศได้อีกครั้ง โอกาสในการสั่งซื้อสินค้าก็จะเริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ด้านธุรกิจพลังงานทดแทนมีแนวโน้มดี เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้ในเชิงพาณิชย์แล้ว โดยในปีนี้    คาดว่าจะเห็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรมากขึ้น

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/63 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 296.39 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 359.44 จำนวน 63.05  ล้านบาท หรือลดลง 17.54 % อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถสร้างการเติบโตกำไร โดยมีกำไรสุทธิ 17.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.93 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัท ยังสามารถสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิ ท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและกำไรจากรายได้อื่นๆ ประกอบกับการวางแผนงานเพื่อบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้รวม ปรับตัวลดลงเนื่องจากลูกค้าในต่างประเทศที่รัฐบาลมีคำสั่งล็อคดาวน์ ส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้ สำหรับภายในประเทศ เกิดจากกลุ่มร้านค้าประเภท Hypermarket อาทิ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี โฮมโปร ฯลฯ ที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ จำเป็นจะต้องปิดการขายผ่านสาขาตามคำสั่งของรัฐบาล

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ