“ลอรีอัล ประเทศไทย” ชี้ อุตสาหกรรมความงามในไทยยังโต เร่งปรับแนวทางดำเนินธุรกิจสู่ออนไลน์ ขยายช่องทางขายผ่านอีคอมเมิร์ซฝ่ายุควิกฤติโควิด-19

วันอังคารที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2563

“ลอรีอัล ประเทศไทย” ชี้ อุตสาหกรรมความงามในไทยยังโต เร่งปรับแนวทางดำเนินธุรกิจสู่ออนไลน์ ขยายช่องทางขายผ่านอีคอมเมิร์ซฝ่ายุควิกฤติโควิด-19


บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในสาขาบริษัทความงามอันดับหนึ่งของโลกและผู้บุกเบิกด้าน Beauty Tech ของประเทศไทย แสดงการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมุ่งสนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย ด้วยโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity เพื่อช่วยเหลือในวิกฤติโควิด-19

พร้อมเผยข้อมูลอุตสาหกรรมความงามในปี 2562 ขึ้นแท่นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทั้งยังครองความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในประเทศไทย ชี้ตลาดความงามปีนี้ท้าทายสุดพร้อมเผยการปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจในยุควิกฤติโควิด-19

นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกภาคธุรกิจแต่การล็อกดาวน์ภายใต้สถานการณ์นี้ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะดำเนินธุรกิจช้าลงเพราะต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ในขณะที่การดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและการดำเนินชีวิตประจำวันยังคงเป็นสองสิ่งจำเป็นที่มาคู่กันเสมอ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมพร้อมความมุ่งมั่นกับพันธสัญญาด้านความยั่งยืนและการช่วยเหลือสังคม ลอรีอัล ประเทศไทยจึงดำเนินโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity ขึ้นเพื่อปันน้ำใจช่วยเหลือในหลากหลายภาคส่วนทั้งเพื่อให้การสนับสนุนและแสดงความขอบคุณในการอุทิศตนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในสถานการณ์ที่ผ่านมา”

โดยโครงการ L’Oréal Thailand COVID-19 Solidarity มีเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือหลายภาคส่วนในประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย ดังนี้ 

1.บุคลากรทางการแพทย์:มอบชุดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและดูแลเส้นผมให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าจำนวน 130,000 คน ในโรงพยาบาล 28 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 24 แห่งและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอีก 4 แห่ง เพื่อแทนคำขอบคุณในความทุ่มเทและเสียสละในการช่วยเหลือประเทศชาติช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท

2.ทุนพิเศษ โครงการลอรีอัล ประเทศไทย เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ เพื่องานวิจัยโควิด-19: มอบทุนวิจัยจำนวน 1 ล้านบาทให้แก่นักวิจัยสตรีที่ดำเนินงานวิจัยเกี่ยวกับโควิด-19 ในสาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวัสดุศาสตร์หรือสาขาเทคโนโลยี จำนวน 5 ทุน ทุนละ 200,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจในการค้นคว้างานวิจัยที่เป็นประโยชน์ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ของโครงการฯร่วมคัดเลือกและตัดสินในด้านขอบเขตของงานวิจัย ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงโครงการทุนวิจัยฯ ประจำปี 2563 อยู่เช่นเคย

3.โครงการสนับสนุนเคียงข้างร้านเสริมสวย L’Oréal Thailand Salon Solidarity:เพื่อช่วยเหลือร้านตัดผม-เสริมสวย ทั้งร้านคู่ค้าและร้านเสริมสวยอื่นทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามเปิดกิจการด้วยการแนะแนวทางช่วยเหลือและให้ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อเร่งปรับตัวและฟื้นธุรกิจหลังได้รับอนุญาตให้เปิดบริการได้

4.กลุ่มผู้ขาดโอกาสทางสังคม: มอบผลิตภัณฑ์ในเครือของลอรีอัล ประเทศไทย ให้แก่บุคคลที่ขาดโอกาสทางสังคมกว่า 100,000 คน ในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดและดูแลผิวและเส้นผมเพื่อใช้ชีวิตประจำวัน 

นอกจากการช่วยเหลือสังคมแล้วลอรีอัลยังเร่งปรับการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือวิกฤติโควิด-19 และเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech ในประเทศไทย ดังนี้:

1.พัฒนาทักษะดิจิทัลแก่ที่ปรึกษาด้านความงาม(BA): จัดคอร์สการเรียนรู้ออนไลน์ เพื่อเพิ่มทักษะให้แก่ที่ปรึกษาด้านความงามสนับสนุนที่ปรึกษาด้านความงามให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าผ่านหน้าโซเชียลมีเดียและช่องทางออนไลน์และให้รับบทบาท e-BA เพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับที่ปรึกษาด้านความงามในช่วงที่ห้างสรรพสินค้าปิดบริการชั่วคราว

2.โปรแกรม Learning Never Stops สำหรับพนักงาน: เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะของพนักงานผ่านหลักสูตรออนไลน์ในช่วงทำงานที่บ้านกับโครงการ Learning Never Stops ผ่าน MyLearning ศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ของพนักงานลอรีอัลและจัด Live Webinar โดยมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าด้วยจำนวนชั่วโมงการเรียนรู้เพิ่มสูงถึงเกือบ 11 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา

3. ผลักดันตลาดอีคอมเมิร์ซ: โดยร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าด้านอีคอมเมิร์ซ ทั้ง Shopee Lazada และ Central Online จัดแคมเปญต่างๆให้ผู้บริโภคในช่วงที่ต้องอยู่ที่บ้านและผลักดันช่องทางอีคอมเมิร์ซอื่นทุกช่องทางอีกทั้งเร่งเสริมนวัตกรรม Beauty Tech เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการซื้อออนไลน์มากขึ้นทั้งนี้ในภาพรวมยอดขายตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมดของบริษัทฯ ในช่วงเดือนพฤษภาคมมีอัตราเติบโตสูงสามหลัก

ทั้งนี้ในระดับโลก ลอรีอัล กรุ๊ป ก็ได้จัดทำโครงการ L’Oréal for the Future เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนเงินทุนจำนวนกว่า 50 ล้านยูโรให้แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไรและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปกับการให้ทุนเพื่อพัฒนาโครงการที่มุ่งปฏิรูประบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายและป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยเงินทุน 100 ล้านยูโร สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจ ตอบโจทย์พันธสัญญาด้านความยั่งยืนในการส่งมอบ “ความงามสำหรับทุกสรรพสิ่ง” หรือ “Sharing Beauty For All”

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาภายใต้ความมุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำด้าน Beauty Tech ของประเทศไทย ลอรีอัลนำเสนอเทคโนโลยีด้านดิจิทัลส่งมอบประสบการณ์ด้านความงามที่ทันสมัย พร้อมกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทย 

โดยในปี 2562 ตลาดความงามในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 6.7 ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.18 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึงร้อยละ 42 จากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดโดยมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวถึง 81 %



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ