พญ.อรอุมา พันธ์อภิวัฒน์  ผู้บริหาร  Dr.Orn Medical Hair Center ศูนย์ดูแลเส้นผมแบบครบวงจร  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องไม่หยุดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกจนทำให้หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงักเนื่องจากขาดรายได้อย่างไรก็ตามยังมีหลายธุรกิจที่สามารถปรับตัวรับสถานการณ์ได้ด้วยการ “ พลิกวิกฤต เป็นโอกาส ” ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในส่วนขององค์กรเราเองนั้นก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถไปต่อได้เช่นกัน โดนเราก็ตระหนักถึงปัญหาและเห็นความสำคัญในขณะที่คลินิกถูกปิดตามนโยบายรัฐเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม (SOCIAL DISTANCING) ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 60 ชีวิตและมีรายจ่ายต่อเดือนหลายล้านบาทแต่ทางคลินิกไม่มีการปรับลดพนักงานยังให้ทำงานเพื่อให้เศรษฐกิจยังขับเคลื่อนได้  

โดยล่าสุดเราพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเปิดตัว Dr.Orn Cosmez ผลิตภัณฑ์บำรุงภายใต้มาตรฐานการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมซึ่งทางคลินิกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในการดูแลรักษาปัญหาของคนไข้ที่มาใช้บริการที่คลินิกเป็นประจำอยู่แล้วแต่ในช่วงที่ต้องกักตัวเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีโดยมีสินค้าหลายตัวจนสินค้าบางอย่างเช่น Onagain เซรั่มบำรุงผมที่ช่วยลดการขาดหลุดร่วง ทำให้รากผมแข็งแรงผลิตไม่ทันจนต้องสั่งจองล่วงหน้าทางคลินิกเองก็มีความพร้อมที่จะขยายกลุ่มลูกค้าที่อาจจะไม่เคยมาใช้บริการที่คลินิกได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพด้วยเช่นกันและลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ไปก็สามารถปรึกษาปัญหาเส้นผมผ่านช่องทางออนไลน์ได้เสมือนมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นดูแลอย่างใกล้ชิด

ผู้บริหารกล่าวว่า ผลินภัณฑ์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาเส้นผมในทุกรูปแบบสำหรับคนที่มีปัญหาก็สามารถใช้ได้หรือคนที่ไม่มีปัญหาก็สามารถเพิ่มการดูแลหรือป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหามีตั้งแต่แชมพูบำรุงผม Intensive Hair Booster Shampoo เป็นแชมพูสูตรธรรมชาติไม่มีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง Untimate Anti- Pollution Shampoo PM 2.5 เป็นแชมพูสูตรป้องกันมลภาวะรวมถึงฝุ่น PM 2.5 หรือเซรั่มบำรุงแก้ปัญหาด้านเส้นผมหรือแม้แต่วิตามินสำหรับคนที่ชอบทานซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการดูแลแบบครบขั้นตอนผ่านการใส่ใจรายละเอียด 

“สำหรับแนวทางการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ของ Dr.Orn Medical Hair Center ศูนย์ดูแลเส้นผมแบบครบวงจรทั้งในแบบระยะสั้นและระยะยาวหัวใจหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องความสามารถในการปรับตัวรับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว (agility) อันจะนำมาซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆ (innovation) ที่ช่วยให้องค์กรได้ไปต่อเพื่อให้ผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ขอให้พนักงานรักษาสุขภาพของตนเองและครอบครัวปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและบริษัทโดยเคร่งครัด”