พืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยตลอดทั้งปีคือฟักทอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด และของหวานต่างๆ ซึ่งลักษณะฟักทองที่ตลาดต้องการต้องมีเนื้อเหนียวแน่น รสชาติหวานมัน ในขณะที่ความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกคือ ต้นแข็งแรง ปลูกง่าย ได้ผลิตผลสูง ทรงผลสวย น้ำหนักดี ทนต่อการขนส่ง และเก็บรักษาได้นาน บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทยได้วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์
วิสานนท์ เพิ่มพูน ผู้รวบรวมผลิตผลฟักทองไทย พื้นเพเป็นคนจังหวัดชุมพร เริ่มอาชีพจากการเป็นลูกจ้างขนฟักทองด้วยค่าแรงหลักร้อย และค่อยๆ ขยับขยายสู่การลงทุนด้วยเงินลงทุนก้อนแรกเพียง 7,000 บาท จนกระทั่งปัจจุบันได้กลายเป็นผู้รวบรวมผลิตผลฟักทองรายใหญ่ที่มีเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ
วิสานนท์ เล่าว่า “เมล็ดพันธุ์และสายพันธุ์ที่ดี คือหัวใจหลักของความสำเร็จ โดยเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ฟักทองของเจียไต๋ทั้งหมด เนื่องด้วยเป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรค จึงทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมีในการปลูกมาก ลดการตกค้างของสาร ต้นใบแข็งแรง ปลูกได้แทบทุกภาคในประเทศไทย นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้เลือกเมล็ดพันธุ์เจียไต๋ เสมอมา อีกทั้งคุณภาพผลิตผลยังได้มาตรฐาน ทั้งรูปทรง สีสัน เนื้อสัมผัส รสชาติ ก็ตรงกับความต้องการของตลาด และที่สำคัญการดูแลและให้คำแนะนำด้านสายพันธุ์และการเพาะปลูกอย่างสม่ำเสมอ
“สิ่งที่ผมประทับใจเสมอมา... จากเงินลงทุนที่ผมเคยต้องหยิบยืมจากคนอื่น... แต่ในวันนี้ผมดีใจที่ได้เป็นคนมอบโอกาสให้คนอื่นบ้าง”
“อารีย์ โชติชื่น” แม่ค้าฟักทองตลาดไท เลือกขายฟักทองเจียไต๋ถึง 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ฟักทองทองอำไพ 426 ทองอำไพ 342 ทองอำพัน 346 และศรีเมืองทองใหญ่ 050
“ฟักทองเจียไต๋ เนื้อดี เนื้อละเอียด เด่นทั้งความหนา ความเหนียว ความมัน ครบถ้วน ลูกค้าที่มาซื้อมักติดใจฟักทองเจียไต๋จึงไม่เรียกหาฟักทองตัวอื่นมาเปรียบเทียบ รวมไปถึงกลุ่มผู้ปลูกฟักทองเองก็นิยมปลูกฟักทองเจียไต๋กันมากเพราะปลูกแล้วได้ผลิตผลดี ตลาดต้องการ”
ถ้าเลือกฟักทองไปผ่าขายโชว์เนื้อก็จะเป็นทองอำไพ 426 และทองอำไพ 342 เพราะเนื้อสีเหลืองสวยถูกใจตลาดหากซื้อไปทำขนมก็ต้องออกสีเขียวไพร อย่างตัวทองอำพัน 346 และศรีเมืองทองใหญ่ 050”
“ฟักทอง” ถือเป็นพืชอีกตัวที่สร้างเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง หากเชื่อมั่แล้วเดินหน้า...ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม