THG จับมือ ม.มหิดล ตั้งศูนย์วิจัย-พัฒนาด้านการแพทย์

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563

THG จับมือ ม.มหิดล ตั้งศูนย์วิจัย-พัฒนาด้านการแพทย์


"ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป" ลงนามเอ็มโอยูกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือแพทย์และบริการทางการแพทย์  ใช้ภายในโรงพยาบาลเครือ THG ก้าวสู่ Smart Hospital รับศักยภาพประเทศไทยเป็นเมดิคัลฮับของภูมิภาค

 

               นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ เข้ามาให้บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพและยกระดับโรงพยาบาลเครือ THG สู่ Smart Hospital รับยุคดิจิทัลและศักยภาพประเทศไทยเป็นเมดิคัลฮับของภูมิภาคนี้ รวมถึงความต้องการใช้บริการทางการแพทย์จากชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มเฮลท์ทัวริสซึมหรือกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากประเทศไทยสามารถรับมือการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้ดีเป็นอับดับต้นๆ ของโลกและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ

               ล่าสุดได้ลงนามความร่วมมือเอ็มโอยูกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้ง ‘ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม Medical Services’ ที่ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เพื่อสนับสนุนการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เพื่อนำมาใช้ในโรงพยาบาลเครือ THG และร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม Health Tech สู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการแพทย์แก่ประเทศอีกด้วย

               "เทรนด์ของโรงพยาบาลในอนาคตจะต้องพัฒนาสู่ Smart Hospital นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ต่างๆ เข้ามาใช้ เช่น ระบบ A.I., เพื่อยกระดับบริการให้ก้าวหน้าล้ำสมัยสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ช่วยให้คนไข้ที่อยู่ห่างไกลสามารถได้รับคำปรึกษาและเข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา ขณะที่โรงพยาบาลสามารถให้บริการคนไข้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น" นายแพทย์บุญ กล่าว

               ดร.เจษฎา ธรรมวณิช Chief PPP Business บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG   กล่าวว่า การเปลี่ยนเแปลงสู่ยุคดิจิทัลและ COVID-19 เป็นตัวเร่งให้โรงพยาบาลต้องปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงและป้องกันความเสี่ยงจากโรคระบาด โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงการนำหุ่นยนต์ผู้ช่วยบุคลากรทางแพทย์เข้าให้บริการในโรงพยาบาลเพื่อลดการสัมผัสคนไข้และแก้ไขปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ยังเพียงพอต่อความต้องการ

               ที่ผ่านมา THG ได้เพิ่มศักยภาพให้บริการแก่คนไข้ โดยนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง อาทิ ระบบทันตกรรมดิจิทัล สามารถทำรากฟันเทียมเสร็จภายใน 1 วันเท่านั้น, ศูนย์ตรวจสุขภาพ (Personalized Wellness Check-Up Center) สามารถให้บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจรภายในที่เดียวและออกแบบโปรแกรมเช็กอัพที่เหมาะกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้เตรียมนำหุ่นยนต์ผู้ช่วยบุคลากรทางแพทย์เข้ามาให้บริการภายใน รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เพื่อลดการสัมผัสและเพิ่มขีดความสามารถให้บริการแก่คนไข้และการจัดการภายในโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

               ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ของภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีนักวิจัยที่มีคุณภาพ และมีจุดแข็งด้านความสามารถให้บริการทางการแพทย์ที่โดดเด่น จากวิกฤติโควิด-19 ได้สะท้อนถึงศักยภาพและความสามารถรับมือการแพร่ระบาดและการรักษาคนไข้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพจนได้รับความชื่นชมและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก

               ทั้งนี้ ในปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆ  มีความต้องการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ (Health Tech) เพื่อยกระดับการให้บริการรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลและเพิ่มขีดความสามารถให้บริการแก่คนไข้ โดยปัจจุบันมีนวัตกรรมและอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์หลายอย่างที่น่าสนใจและเป็นเทรนด์การพัฒนาที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ อาทิ ระบบ A.I. เพื่อประเมินอาการและแนวทางวิธีการรักษาเบื้องต้นแก่คนไข้, ระบบ Telemedicine ที่สามารถเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลประวัติการรักษาเพื่อให้บริการแก่คนไข้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สะดวกเดินทางมายังโรงพยาบาล, การพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อให้บริการแก่คนไข้ ฯลฯ นอกจากนี้ภายหลังเกิดโรค COVID-19 มีโรงพยาบาลหลายแห่งที่นำนวัตกรรมและหุ่นยนต์ทางการแพทย์เข้ามาให้บริการ

               อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ใหม่ๆ ยังมีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและต่อยอดสู่ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศที่มีองค์ความรู้และชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาดเชิงพาณิชย์ ซึ่งการที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการสนับสนุนจาก บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ร่วมกันจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม Medical Services จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

               รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ในอาเซียน โดยส่งออกปีละกว่า 107,700 ล้านบาท และนำเข้าปีละกว่า 66,500 ล้านบาท ภาพรวมของการส่งออกขยายตัวปีละเฉลี่ย 8-10% ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์และเฮลท์เทค กำลังเป็นที่ต้องการจากทั่วโลกเพื่อยกระดับบริการทางการแพทย์และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคนิวนอร์มอล โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมร่วมมือกับ THG ดำเนินการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการแก่คนไข้ และจะนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพให้แก่ประเทศอีกด้วย

                

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ