"เมก้า"รุกหนักตลาดอาหารเสริม เน้นสร้างความแตกต่างฉีกคู่แข่ง

วันพุธที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2556



เมื่อไม่นานมานี้ ทาง บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ "เมก้า วี แคร์" แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร วิตามิน และยารักษาโรคคุณภาพสูง ที่วางจำหน่ายกว่า 29 ประเทศ ทั่วโลก เพิ่งได้เปิดปฏิบัติการของธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ในการที่บริษัท ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ และ ขยายโรงงานในประเทศไทยเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
และล่าสุดนี้ บริษัทได้ประกาศ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ อันได้แก่ การขยายฐานการผลิตใหม่ในประเทศออสเตรเลีย การลงทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัท ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และคุณภาพในประเทศไทย รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของบริษัท
วิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและชีฟโค้ช บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวม ตลาดอาหารเสริมในช่วงครี่งปีแรกที่ผ่าน มาถือว่าเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวขณะนี้ แต่ตลาดอาหารเสริมก็เติบโตตามปกติ อาจจะเนื่องจากปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจดูแลเรื่องสุขภาพของตัวเองให้ดีขึ้น ในการหาตัวช่วยมาบำรุงรักษาร่างกาย ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 56 บริษัทมียอดขายผลิตภัณฑ์โดยรวมเติบโตถึง 30.1 % โดย สามารถทำยอดขายถึง 566.9 ล้านบาท ในประเทศไทย ส่วนยอดขายทั่วโลกครึ่งปีแรกเรามีอัตราการเติบโตขึ้นถึง 20.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
และภายในปีนี้จนถึงปีหน้าบริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ หลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.การขยายฐานการผลิตอันทันสมัยแห่งใหม่ในประเทศออสเตรเลีย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชนิดผง ชนิดเม็ดและชนิดเคี้ยว โดยมีกำลัง ผลิตสูงสุดต่อผลิตภัณฑ์ชนิดผง 650 เมตริกตัน, ผลิตภัณฑ์แคปซูลแข็ง 13 ล้านแคปซูล และผลิตภัณฑ์ชนิดเม็ด 155 ล้านเม็ดต่อปี ซึ่งโรงงานที่ออสเตรเลียของเมก้าจะเพิ่ม ศักยภาพการผลิตของโรงงานในประเทศ ไทยด้วย 2.การลงทุนอย่างต่อเนื่องในการควบคุมและการประกันคุณภาพที่โรง งานผลิต ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปูในประเทศไทย โดยเมก้าได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุน อย่างต่อเนื่องสำหรับห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพและจ้างผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมคุณภาพ การประกันคุณภาพและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ 3.การเปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงใหม่ๆ และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภคชาวไทย จากที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์ชั้นนำ อย่าง แนทซี (Nat C) แนทบี (Nat B) น้ำมันปลาและโกเฟน (Gofen) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย
"ในครึ่งปีหลัง 56 นี้ บริษัทได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ คือ แนทดี (Nat D) ผลิตภัณฑ์อาหาร เสริมวิตามินดีที่พัฒนาและผลิตขึ้นในประเทศออสเตรเลียและปัจจุบันมีจำหน่ายใน ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว อเลอเทน คิว 100 ที่ผลิตโดยเทคโนโลยีที่ได้จดสิทธิบัตร จากเวย์ซิซอฟ (VESIsorb) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เพิ่มการดูดซึมโคเอ็นไซม์คิว 10 สารอาหารที่ร่างกายสามารถ ผลิตได้เองและจำเป็นต่อการทำงานพื้นฐานของเซลล์ ซึ่งอาจต้องได้รับเพิ่มในบางกรณี นอกเหนือไปจากเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว เมก้ายังมีเทคโนโลยีของบริษัท เช่น เทคโนโลยีเคลียร์แคป (Clearcap) อีมัลแคป (Emulcap) และเอ็มเอสซีซี คอมเพล็กซ์ แอคติโซม (MSCC Complex Actisome) เทคโนโลยีทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค"
ทั้งนี้ เมก้ามีผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 138 ชนิดที่อยู่ในกระบวนการเตรียมการ โดยอยู่ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 59 ชนิด และอยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ 79 ชนิด โดยเราได้จัดสรรเงินลงทุนประมาณร้อยละ 1.5 ถึงร้อยละ 2 ของยอดขายทั้งปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ของเมก้าเหล่านี้จะช่วยดูแลสุขภาพของคนไทยให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้บริษัทมีความแข่งแกร่ง แตกต่างจากคู่แข่งขันมากขึ้น


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ