เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงพาณิชย์จัดงาน “เซลส์แมนจังหวัด จัดซื้อขายแลกเปลี่ยน Counter Trade” ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ขาย” ซึ่งที่ผ่านมามีเซลส์แมนจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดแลกเปลี่ยนและซื้อขายสินค้าใน 5 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย ผลไม้ ข้าวสาร ปศุสัตว์ ประมง และ อื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 778 ล้านบาท สำหรับงานวันนี้มียอดซื้อขายประมาณ 2,500 ล้านบาท
บิสคลับ จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งหน่วยงานที่ได้ลงนามบันทึกของตกลง (MOU) กับ บริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด ผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทย โดย ดร.ณุกานดา กิติศุภวัฒนา ประธานเครือข่ายธุรกิจบิสคลับ จ.จันทบุรี กล่าวถึงการลงนาม MOU ในครั้งนี้ว่าบิสคลับจันทบุรีเปรียบเสมือนตัวแทนชาวสวนที่นำผลผลิตผลไม้ต่างๆ อาทิ ทุเรียน มังคุด ส่งให้กับบริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่รับผลไม้กระจายไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และ จีน นำผลผลิตโดยเฉพาะทุเรียนมาทำเป็นทุเรียนสด ทุเรียนแช่แข็งส่งไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังนำมาแปรรูปที่มีความหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทุเรียนและเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ไม่ชอบทานทุเรียนสดได้ทานทุเรียนแปรรูปที่มีความอร่อยไม่แพ้กัน ทำให้เกษตรกรสามารถส่งผลผลิตสู่ตลาดผ่านบรษัทควีนได้มากขึ้น โดยมีบิสคลับเป็นตัวแทน เปรียบเสมือนเป็นเซลส์แมนให้กับเกษตรกรนั่นเอง
“วันนี้เรามาเซ็นเอ็มโอยูการซื้อขายทุเรียนมูลค่า 70 ล้านบาท ประมาณ 700 ตัน ซึ่งจริงๆมีมากกว่านี้ แต่อันนี้แค่เบื้องต้น ปกติบริษัทควีนรับทุเรียนจากเมืองจันท์ปีหนึ่งจำนวนมาก รวมถึงทุเรียนในภาคตะวันออกและทั่วประเทศเพื่อส่งไปจำหน่ายยังปลายน้ำสู่ผู้บริโภคทั่วโลก” ดร.ณุกานดา กล่าว
ดร.ณุกานดากล่าวอีกว่าในปี 64 ได้วางแผนออเดอร์เพื่อจำหน่ายให้กับบริษัทควีนไว้แล้ว เนื่องจากความต้องการทุเรียนยังมีเป็นจำนวนมาก และบริษัทควีนได้หาตลาดไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าเกษตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพส่งมา บิสคลับจะเป็นตัวเชื่อมให้
“โดยเฉพาะทุเรียนที่ผลิตด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ เรามีโครงการตลาดใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น อยากให้เกษตรกรปลูกของดีมีคุณภาพ รับประกันราคาดีแน่นอน ปัจจุบันเกษตรกรเมืองจันท์ตื่นตัวหันมาทำเกษตรอินทรีย์กันมาก ขณะที่ผู้บริโภคก็หันมาบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์มากขึ้น ต้องการมากขึ้น มีตลาดใหม่ๆเพิ่มมาก คนทานมีเยอะ ช่องทางการตลาดเริ่มมากขึ้น ราคาไม่เกี่ยง แต่ขอให้เป็นของดีมีคุณภาพ ทานแล้วปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง”
ด้าน ภาคภูมิ ภัคปภากร President Assistant บริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด กล่าวว่า ปกติยอดขายทุเรียนของบริษัทตกปีละประมาณ 3,500 ล้านบาท ซื้อจากจันทบุรีเกินครึ่ง ประมาณพันกว่าล้าน สินค้าที่ผลิตมีทั้งทุเรียนสด ทุเรียนแช่แข็งและทุเรียนแปรรูปต่างๆ เช่น ไอศกรีมทุเรียน ทุเรียนฟรีซดราย ทุเรียนเสียบไม้พร้อมรับประทาน โดยมีโรงงานแปรรูปอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี
“สำหรับผลไม้ที่เรารับจากทั่วประเทศจะเน้นทุเรียนเป็นหลัก ที่เหลือเป็นมังคุดและลำไย ตลาดส่งออกหลักๆคือจีนประมาณ 80% ที่เหลือคือยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา” ภาคภูมิ กล่าว
ภาคภูมิยังกล่าวถึงเทรนด์ของโลกในปัจจุบันว่ากำลังหันมานิยมผลไม้ที่ผลิตด้วยเกษตรอินทรีย์ จึงอยากสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกทุเรียนอินทรีย์กันมากขึ้น ในหลากหลายสายพันธ์ทั้งชะนี ก้านยาว พวงมณี ฯลฯ
“ตอนนี้ประเทศทางสหภาพยุโรปเน้นหนักในเรื่องเกษตรอินทรีย์ ถามมากันมากว่ามีทุเรียนออแกนิกส์หรือเปล่า จึงเป็นโอกาสของเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนออแกนิกส์หรือผลไม้ออแกนิกส์ ในช่วงสถานการณ์โควิดทำให้แรงซื้อเปลี่ยนไปมาก เราก็พยายามปรับตัว ปรับเปลี่ยน พยายามเลือกตลาดหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในกรณีที่เราเลือกจะไปตลาดอื่นๆมากขึ้นก็จะมีแรงซื้อใหม่ๆเข้ามา อาทิ ทุเรียนออแกนิกส์ ผลไม้อินทรีย์ เป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคฝั่งตะวันตกหรือฝั่งยุโรปที่เขาเรียกร้องกันเข้ามา จึงอยากให้เกษตรกรหันมาดูคุณภาพสินค้า ลองศึกษาตลาดเหล่านี้จะพบว่ามีแรงซื้อแรงขายได้เพิ่มมากขึ้น” ภาคภูมิ กล่าวปิดท้าย
