บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ศักยภาพผู้นำธุรกิจอาหารในงาน Thaifex-Anuga World of Food Asia 2020 ภายใต้แนวคิด “FOOD FOR TOMORROW” ปรับโฉม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารรองรับการบริโภคเพื่อสุขภาพตามวิถีปกติใหม่ (New Normal)
นำทีมโดย “หมูชีวา” นวัตกรรมหมูที่มีโอเมก้า 3 มากกว่าหมูทั่วไป 2.5 เท่า คว้ารางวัลสุดยอดสินค้านวัตกรรมตอกย้ำเป็น “ครัวโลก” รองรับการบริโภคของประชากรโลกกว่าหมื่นล้านคนในปี 2050 ได้อย่างยั่งยืน
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 กระแสการบริโภคของโลกได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปสู่ “การบริโภคเพื่อสุขภาพ” อย่างชัดเจนมากขึ้นความปลอดภัยและการเข้าถึงอาหารกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุดผู้คนมองหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สะอาด ถูกหลักอนามัย ปลอดเชื้อ ลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนในขณะเดียวกันก็ต้องง่ายในการปรุงสะดวกในการทานและคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายรวมถึงรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนสู่วิถี “Food delivery”, “Cooking at Home” และพฤติกรรมการซื้อสินค้าถูกเร่งเข้าสู่ “Online Streaming” และ “e-commerce” อย่างรวดเร็วจึงเกิดเป็นแนวคิด “FOOD FOR TOMORROW” ที่จะตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในมิติที่หลากหลาย
ผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แนวคิด FOOD FOR TOMORROW ของซีพีเอฟที่นำมาจัดแสดงภายในงาน Thaifex-Anuga World of Food Asia 2020 ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.)กลุ่ม INNOVATION + WELLNESS FOOD & BEVERAGES ซึ่งเป็นนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหารตั้งแต่อาหารสัตว์ (Feed) เทคโนโลยีการเลี้ยงและระบบฟาร์มป้องกันโรค (Farm) รวมถึงนวัตกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม (Food) กระทั่งได้มาซึ่งอาหารที่เพิ่มสารอาหารจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย (Functional Food & Beverage) ภายใต้แนวคิด “Food as a Medicine” อาทิ ผลิตภัณฑ์ “Cheeva Pork” ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศสุดยดสินค้านวัตกรรมระดับโลกจากงาน Thaifex 2020 เป็นเนื้อหมูนวัตกรรมที่มีโอเมก้า 3 มากกว่าเนื้อหมูปกติ 2.5 เท่าจากการเลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติที่อุดมด้วยโอเมก้าอย่าง Flax Seed, สาหร่ายทะเลธรรมชาติและน้ำมันปลาทะเลลึกช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และยังปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู (รับรองโดย NSF)
ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแบรนด์ INNOWENESS ที่ประกอบด้วยเครื่องดื่มเบต้ากลูแคน IMU ผลิตจากเห็ดสกัดธรรมชาติ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ และหวัด เครื่องดื่มแอลธีอานิน DEEP ที่สกัดจากยอดชาเขียวจากญี่ปุ่น ช่วยปรับสมดุลคลื่นสมอง ช่วยให้นอนหลับลึก ตื่นสด ชื่น ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดก่อนนอน และเครื่องดื่ม FRESH สกัดจากน้ำทับทิม และชาเขียว ช่วยปลุกสมอง คืนความสดชื่นระหว่างวันโดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถเก็บรักษาคุณค่าทางอาหารในอุณหภูมิห้องปกติได้นานถึง 1 ปี
ผลิตภัณฑ์ Chicken Rib มิติใหม่ของนวัตกรรมการผลิตเนื้อไก่แบบ Special Cut ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ในการกินเนื้อไก่ ให้อร่อยเพลิน ด้วยเนื้อเต็มคำ นุ่ม ฉ่ำ และกระดูกเดียว ทานง่าย ทั้งไก่สด และแบบหมักพร้อมปรุ
2.)กลุ่ม READY-TO-EAT FOOD ซีพีเอฟนำอาหารพร้อมทานหลากหลายทั้งเมนูไก่ เกี๊ยวกุ้ง สปาเก็ตตี้ เมนูข้าวแกงหรือ Snack Food และเมนูเพื่อสุขภาพ High Fiber-Low Calories ที่เหมาะสำหรับการเก็บที่บ้านง่ายต่อการอุ่นพร้อมทานได้ทุกเวลาด้วยรสชาติความอร่อยที่ลงตัวและมั่นใจได้ในเรื่องการผลิตที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อเพราะอาหารทั้งหมดถูกปรุงและแพ็คจากโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับโลกไม่ผ่านมือใครจนถึงมือคุณ
3.)กลุ่ม FRESH DESTINATION MEAT เนื่องจากโปรตีนเนื้อสัตว์ยังคงเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูอาหารของประชากรโลกในยุค New Normal การเลือกเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคจะมีความพิถีพิถันมากขึ้นในเรื่องมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัย ปลอดเชื้อ ความสดใหม่ของเนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ไข่ ปลา และเนื้อวัวที่มีคุณภาพซึ่งซีพีเอฟให้ความสำคัญในสิ่งเหล่านี้อย่างยิ่งยวดเมื่อประกอบกับบริการ e-Commerce และการจัดส่งแบบ Home Delivery จะช่ยให้การปรุงอาหารที่บ้านเต็มไปด้วยความสนุกปลอดภัยและอร่อยถูกปากทั้งครอบครัว
ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังคงมีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็น “ครัวของโลกที่ยั่งยืน” (Sustainable Kitchen of the World) เพื่อรองรับการบริโภคของประชากรโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงกว่า 10,000 ล้านคนภายในปี 2050 โดยมุ่งมั่นทุ่มเทและพัฒนาการผลิตอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต (Value Supply Chain) ตั้งแต่ FEED-FARM-FOOD ภายใต้แนวทาง “PUT OUR HEART INTO FOOD” ด้วยการเอาใจใส่ในด้าน INNOVATION นวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่มีความสุขขึ้นด้าน PEOPLE โดยให้ความสำคัญกับผู้คน ทั้งผู้บริโภค พนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจและด้าน PLANET ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลดการปล่อยมลพิษจากการผลิตและลดขยะจากบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และโลกที่เต็มไปด้วยความสุข
“เพราะวิถีการบริโภคที่เปลี่ยนไปในวันนี้ผู้บริโภคมิได้เลือกสรรเพียงแค่อาหารปลอดภัยมีคุณภาพและรสชาติที่อร่อยเท่านั้นแต่ยังคำนึงถึงแหล่งที่มากระบวนการผลิตและจัดส่งถึงมือผู้บริโภคโดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด...เพื่อการบริโภคและโลกที่ยั่งยืน” นายประสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย