สำหรับชาวไทยแล้วแบรนด์ เวอร์จิ้น (Virgin) นั้นจะเป็นที่รู้จักกันในเรื่องคลื่นวิทยุ เวอร์จิ้นฮิต 95.5 แต่ในระดับโลกแล้ว เวอร์จิ้น กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดยักษ์ซึ่งประกอบด้วยบริษัทในเครือมากกว่า 400 บริษัททั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่บันเทิง ธนาคาร สายการบิน ท่องเที่ยว เครื่องดื่ม จนถึงเทียวบินไปอวกาศ
หลายคนอาจจะแปลกใจเมื่อทราบ ว่า แบรนด์เวอร์จิ้น เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจ จากร้านขายแผ่นเสียงในช่วงยุคปี 1970 ก่อนจะขยายไปยังภาคธุรกิจอื่นๆ พร้อมด้วยรายได้กว่า 24 พันล้านในปี 2012 ดังที่เห็นในปัจจุบัน
"เวอร์จิ้น กรุ๊ป" (Virgin Group Ltd.) เป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งโดย เซอร์ ริชาร์ด ชาร์ลส นิโคลาส แบรนสัน หรือ ริชาร์ด แบรนสัน ในปี ค.ศ.1970 ช่วงแรก บริษัทประกอบธุรกิจ เครือข่ายร้านจำหน่ายแผ่นเสียง ในชื่อ ว่า Virgin Records โดยมีสาขาทั่วประ- เทศอังกฤษ พร้อมกับทำธุรกิจห้องบันทึกเสียงและเริ่มผลิตแผ่นเสียงในสังกัดของ ตัวเองในเวลาต่อมา
ศิลปินที่มีชื่อเสียงในสังกัดของ Virgin Records ในยุคแรกเช่น ไมค์ โอลด์ฟิลด์, แทนเจอรีน ดรีม, เซ็กซ์ พิส ทอลส์ และยุคถัดมาเช่น เจเนซิส, ฟิล คอลลินส์, ปีเตอร์ แกเบรียล, บอยจอร์จ เป็นต้น
ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์เวอร์จิ้น ก็คือ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหลักของแบรนด์ ริชาร์ด แบรนด์สัน ซึ่งเป็นต้นแบบการบริการธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์นวัตกรรมนั่นเอง โดยผลงานหนึ่งที่เป็นที่กล่าวถึงในวงการธุรกิจ คือ การสร้างแบรนด์สายการบิน Virgin Atlantic
ริชาร์ด แบรนด์สัน เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเริ่มจากการทำนิตยสารรายเดือนสำหรับนักศึกษามหา วิทยาลัยชื่อว่า Student และต่อด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายแผ่นเสียงทางไปรษณีย์ ในปี 1970 จนกระทั่งมาเป็นเครือข่ายร้านจำหน่ายแผ่นเสียง Virgin Record
แม้จะดูเป็นเส้นทางธุรกิจที่ปกติธรรมดา ด้วยการต่อยอดการจัดจำหน่ายสินค้า ทางไปรษณีย์สู่การมีหน้าร้านเป็นหลักแหล่ง แต่ความไม่ธรรมดาของแบรนด์เวอร์จิ้นได้เริ่มขึ้นเมื่อ ริชาร์ด แบรนด์สัน ตัดสินใจนำบริษัทเข้าสู่ธุรกิจสายการบิน
โดยในปี ค.ศ.1984 ริชาร์ด แบรนด์สัน ได้ร่วมมือกับ แรนดอล์ฟ ฟิลด์ส ทนาย ความชาวอเมริกัน ผู้พยายามก่อตั้งสายการ บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกราคาพิเศษชื่อว่า Laker Airways โดยริชาร์ดแบรนด์สันได้เข้าถือหุ้นในสายการบินดังกล่าว พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Virgin Atlantic ซึ่งนี่เป็นธุรกิจที่แตกต่างจากการขายแผ่นเสียงโดยสิ้นเชิง
ในช่วงแรกไม่มีใครคาดคิดว่าเวอร์จิ้น จะสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจสาย การบินซึ่งเต็มไปด้วยผู้เล่นหน้าเก่าที่ล้วนดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานจนมีฐานลูกค้า มากมาย จึงนับเป็นเรื่องยากที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะแทรกเข้าไปในตลาดได้โดยเฉพาะสายการบินหลักของอังกฤษ British Airways ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่มีสายการบินโลว์คอสต์เข้ามาในตลาด
ภายหลังได้มีการฟ้องร้องกันระหว่าง British Airways และ Virgin Atlantic ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ British Airways จ่าย ค่าเสียหายแก่ ริชาร์ด แบรนด์สัน และ Virgin Atlantic ในฐานดำเนินการกีดกันทางธุรกิจ
เวอร์จิ้นเองเห็นถึงอุปสรรคดังกล่าว ซึ่งการเป็นสายการบินโลว์คอสต์อยู่แล้ว จึง ไม่สามารถแข่งขันด้วยกลยุทธ์ด้านราคาได้อีก จึงหันมาแข่งขันด้วยนวัตกรรมและความแปลกใหม่ของการบริการ โดยอาศัย เงินทุนจากธุรกิจแผ่นเสียงที่กำลังประสบความสำเร็จ
นวัตกรรมที่สายการบิน Virgin Atlantic นำมาใช้เป็นครั้งแรกในธุรกิจสายการบินพาณิชย์ เช่น จอโทรทัศน์สำหรับที่นั่งในระดับ Business class, ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก, ระบบเช็กอินแบบไดรฟ์ ทรู, บาร์เครื่องดื่ม, บริการนวดและบริการ super economy ซึ่งเป็นระดับที่อยู่ระหว่าง economy กับ business ด้วยราคาที่ไม่แพง เป็นต้น
แม้จะประสบความสำเร็จแล้ว แต่ สายการบิน Virgin Atlantic ยังคงนำ เสนอนวัตกรรมและความแปลกใหม่ซึ่งเข้ากับเทรนด์ยอดนิยมในช่วงนั้นๆ แก่วง การการบินพาณิชย์อย่างสม่ำเสมอทั้ง แอพพลิเคชั่น Flying Without Fear สำหรับผู้ที่กลัวการบิน หรือการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพแทนเชื้อเพลิงปกติเป็นสายการบินแรก
การใช้นวัตกรรมและความแปลก ใหม่ดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้ Virgin Atlantic แตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจแล้ว ยังช่วยให้แบรนด์เป็นที่สนใจของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์อย่าง ละเอียดแล้วนวัตกรรมต่างๆ ที่ Virgin Atlantic นำมาใช้ล้วนเกี่ยวพันกับการบริการและความสะดวกสบายของผู้โดยสารทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นหัวใจของธุรกิจบริการจึงทำให้แบรนด์สามารถครองใจผู้บริโภคและประสบความสำเร็จได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ตัวริชาร์ด แบรนด์สันเองยังนำตนเองมาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม และแคมเปญโฆษณาของสายการบิน Virgin Atlantic และธุรกิจอื่นๆ ในเครือ เวอร์จิ้น ซึ่งด้วยภาพลักษณ์ที่สนุกสนาน เฮฮาและพูดจริงทำจริง ของริชาร์ด แบรนด์ ได้ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคแก่สายการบินอีกด้วย
ปัจจุบัน Virgin Atlantic เป็นสายการบินอันดับ 2 ของประเทศอังกฤษและได้รับการจัดอันดับจาก "ทราเวล แอนด์ ลีเชอร์" นิตยสารด้านการท่องเที่ยวชื่อดังของโลก ให้เป็นอันดับ 8 จาก 10 สายการบินที่ดีที่สุด แซงการบินไทยที่อยู่ในอันดับ 9 ไปเล็กน้อย