"โปรเอ็น คอร์ป"  ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ 86 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai  เผยนำเงินจากการระดมทุนขยายธุรกิจศูนย์ข้อมูล Data Center- ลงทุนด้านบริการธุรกิจศูนย์ข้อมูล Data Center Infrastructure as a Service (IaaS)  ก่อสร้างอาคารสำนักงาน-อาคารศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ และลงทุนเพิ่มศักยภาพในการให้บริการคลาวน์ (Cloud Service) ได้ "เอเซีย พลัส"  เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน   

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า  ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filling) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 86,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 81,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป และ (2) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

ทั้งนี้ หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 86,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 27.2 ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายการระดมทุนในครั้่งนี้่ เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ประกอบด้วย การลงทุนในด้านบริการธุรกิจศูนย์ข้อมูล Data Center Infrastructure as  a Service (IaaS) การลงทุนเพิ่มศักยภาพในการให้บริการคลาวน์ (Cloud Service) การก่อสร้างอาคารสำนักงาน และอาคารศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจการให้บริการด้าน ICT และงานรับเหมาก่อสร้าง และคืนหนี้สถาบันการเงิน

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (2560 - 2562) ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทประกอบด้วย ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Information Communication and Technology: ICT) ซึ่งเป็นรายได้หลักคิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ยร้อยละ 87.1 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสำหรับโทรคมนาคมพื้นฐาน (Telecommunication Service) ซึ่งกลุ่มบริษัทเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2561 คิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ยร้อยละ 12.5 และ รายได้อื่นคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 0.4 

ในช่วงปี 2560 - 2562 รายได้จากการขายและบริการของกลุ่มบริษัทเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 23.5 รายการหลักมาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจ ICT ซึ่งเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 17.4 เนื่องจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ขยายธุรกิจ e-commerce อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ศูนย์ข้อมูลและจำหน่ายอุปกรณ์เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้ การเติบโตของรายได้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปี 2561

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 รายได้จากการขายและบริการของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 176.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่กลุ่มบริษัทดำเนินโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 4 โครงการในปี 2563 เนื่องจากประสบการณ์ด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของกลุ่มบริษัทที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินการก่อสร้างโครงการได้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16.3 จากร้อยละ 8.2 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น

โดยในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 22.9 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2562 มีกำไรสุทธิ 16.6 ล้านบาท และในปี 2561 มีกำไรสุทธิ 23.6 ล้านบาท