สสส.จับมือเครือข่ายภาคีสร้างสุขภาวะเด็ก ยื่นเสนอป้องกันแก้ไขปัญหาละเมิดเด็ก ชู ตัดคำว่า “โรงเรียน” ออกจากอนุบาล ต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย พร้อมสร้างระบบตรวจสอบ-แจ้งเหตุผ่านระบบดิจิทัล
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กทม. เครือข่ายภาคีสร้างสุขภาวะเด็ก เดินทางไปมอบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการละเมิดเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยสำหรับเด็ก ต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้แทนคณะกรรมการฯ รับมอบ
นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยประกาศตนเป็นพื้นที่ปลอดพฤติกรรมรุนแรงต่อเด็ก ด้วยกาย วาจา อารมณ์ และแสดงมาตรการในการดำเนินงานให้สอดคล้อง ตลอดจนกำหนดแนวทางติดตามและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ และประกาศหลักการสำคัญของการจัดการศึกษาปฐมวัยที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามธรรมชาติของเด็ก คือการรักษาความเป็นธรรมชาติของเด็กไว้ และเปิดโอกาสให้จิตวิญญาณ ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา พัฒนาไปพร้อมกันอย่างสมดุลและเหมาะสมตามวัย ไม่ใช่การสอนเพื่อเร่งเรียนเขียนอ่าน พิจารณาตัดคำว่า “โรงเรียน” ออกจากอนุบาล เพราะสร้างความเข้าใจผิดว่าเด็กต้องอ่านออกเขียนได้ ควรใช้คำว่า “อนุบาล” ซึ่งราชบัณฑิตยสภาให้ความหมายว่า “ตามเลี้ยงดู ตามระวังรักษา
สำหรีบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายทั้ง 12 ข้อนี้ล้วนเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ซึ่งเครือข่ายภาคีนักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงาน และพ่อแม่ผู้ปกครองได้ร่วมกันวิเคราะห์ว่าหากทำทันทีจะเป็นกำไรของสังคมไทยมาก เพราะเด็กโตเร็ว และโตขึ้นทุกวัน ยิ่งช้าสังคมไทยก็ยิ่งเสียโอกาส
นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ ผู้ก่อตั้ง Life Education Thailand หนึ่งในเครือข่ายภาคีสร้างสุขภาวะเด็ก กล่าวว่า ข้อเสนอครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างยั่งยืน รวมทั้งต้องส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการพัฒนาเด็กปฐมวัยร่วมกับครูอาจารย์ และกำหนดให้สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยมีหน้าที่ให้ความรู้เรื่องพัฒนาการเด็กอย่างถูกต้องแก่ผู้ปกครองเพื่อทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
นายเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก กล่าวว่า การพัฒนาเด็กปฐมวัย ไม่ได้มีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เป็นผู้ที่ดูแลโดยเฉพาะ จะต้องมีหลาย ๆ หน่วยงานร่วมกันบูรณาการนำไปสู่การกำหนดทิศทางพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ชัดเจนมากขึ้น สุดท้ายนี้เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยทำงานขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ จึงจำเป็นต้องมี “หน่วยงานหรือสำนักงาน”ของตนเอง เพื่อขับเคลื่อนงานพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นการเฉพาะ