เผย3 รูปแบบหลักสูตรทางรอดมหาวิทยาลัย

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เผย3 รูปแบบหลักสูตรทางรอดมหาวิทยาลัย


อาจารย์ ม.ราม เผย 3 รูปแบบหลักสูตรใหม่ที่ตอบโจทย์คนทุกGEN ที่ความรู้ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องเรียน-ใบปริญญา และเป็นทางรอดมหาวิทยาลัยในยุคนี้

 

รศ.ดร.ปรัชญา ชุ่มนาเสียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) กล่าวว่า

คนที่จะอยู่รอดในยุคปัจจุบันนี้ต้องมีทักษะมากกว่า 1 อย่าง ดังนั้น สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องทำและปรับตัว คือ ต้องมีการปรับหลักสูตรให้ตอบโจทย์วัยแรงงานและขยายตลาดผู้เรียนไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ มีการ Reskill/Upskill  พัฒนาหลักสูตรให้มีความน่าสนใจและองค์ความรู้ใหม่อยู่ตลอด แบบตั้งรับและเคลื่อนที่เร็ว อย่าง ม.รามคำแหงเป็นการเรียนแบบตลาดวิชา ทำให้นักศึกษาได้เลือกเรียนอย่างอิสระ และสอดคล้องกับงานที่เกิดขึ้นใหม่  ที่สำคัญต้องมีการพัฒนาทักษะ คุณภาพของนักศึกษาให้เป็นบัณฑิตสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการจัดทำหลักสูตรอิงสมรรถนะและทักษะ แบบเรียนเป็นชุดวิชา (Modules) แทนการเรียนทั้งสาขาวิชา เน้นการมีทักษะมากกว่าเน้นปริญญา และต้องเพิ่มหลักสูตรจากการเรียนรายวิชา เป็นการเรียนตามหัวข้อ สามารถขอเทียบโอนหน่วยกิตหรือขอใบรับรองได้

รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวด้วยว่า มีความเป็นไปได้ว่านักศึกษาที่จบใหม่ในปี 2564 ที่มีมากกว่า 1.8 ล้านคน จะยังเข้าสู่ตลาดแรงงานไม่ได้ในทันที และคาดว่าประมาณ 4-5 แสนคน อาจจะกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโทหรือปริญญาตรีใบที่ 2 ในขณะที่หางานทำไปด้วย หรือเป็นฟรีแลนซ์งานอื่นๆไปด้วย รวมถึงกลุ่มคนที่ยังอยู่ใน Gen X, Y ที่ต้อง Reskill/Upskill หรือ หาทักษะใหม่ให้กับตนเองเพื่อเปลี่ยนสายงาน/สายอาชีพไปเลย ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยบูรณาการสิ่งที่มีอยู่เดิมและพัฒนาหลักสูตรใหม่  ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน

 

ขณะเดียวกัน จากเวทีสัมมนา Flagship Summit :Skills for the future ณ จุฬาลงกรณ์ วิทยาลัย ได้สรุปถึงงานในอีก 12ปี ข้างหน้า ว่า กว่า 80% ของงานที่มีในอนาคต ยังไม่ปรากฏในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่าอนาคตจะมีงานรูปแบบใหม่ เกิดขึ้นอีกมากมาย

รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวต่อว่า เมื่อเทรนด์การเรียนรู้ของผู้คนไม่ได้จำกัดเฉพาะในห้องเรียน และกลุ่มเป้าหมายผู้เรียนของมหาวิทยาลัยไม่ได้มีเพียงกลุ่มเด็กจบมัธยมศึกษาตอนปลาย การเกิดหลักสูตรใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างมาก โดยหลักสูตรแห่งอนาคตจะต้องมี 3 รูปแบบ ดังนี้  1. Formal Education เน้นหลักสูตร 4 ปี 5ปี (วิชาชีพ) หรือหลักสูตรต่อเนื่อง โดยออกแบบหลักสูตรตามจุดแข็งดั้งเดิมของมหาวิทยาลัย และสร้างหลักสูตรสอดคล้องกับตลาดแรงงาน โดยพยายามนำสาขาวิชาในแต่ละคณะมาบูรณาการร่วมกันเพื่อสร้างหลักสูตรใหม่ อาทิ สาขาแพทย์แผนไทยร่วมกับสาขาคหกรรมศาตร์ กับสาขาเทคโนโลยีด้านอาหาร สร้างผลิตภัณฑ์อาหาร และยาจากพืชสมุนไพรไทย เป็นต้น

2.Non formal Education หลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น ทั้งระบบ Online และ ระบบ Offline เพื่อตอบโจทย์ New Normal และ การเรียนที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้จริง ด้วยแนวคิดการเรียนรู้อย่างสนุกและสร้างงาน เช่น การสร้างยูทูปเบอร์, การขายของออนไลน์, Life Coach, Reviewer, นักการตลาดออนไลน์, เจ้าของธุรกิจ Start up เป็นต้น 

และ 3. Informal Education หรือการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ของคนทุกวัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นรูปแบบ Online หรือ MOOC (Massive Open Online Course) เพื่อต่อยอดเพิ่มพูนความรู้ ทักษะในอาชีพตามความถนัดและสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

 นอกจาก บทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการสร้างทุนมนุษย์แล้ว ยังต้องเป็นแหล่งพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนหรือพัฒนาชุมชน เพราะการบริการสังคม ร่วมกับชุมชนในการแก้ปัญหาท้องถิ่น สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ชุมชน เป็นการฝึกให้นักศึกษามีความรับผิดชอบ พัฒนาทักษะการสื่อสาร มนุษย์สัมพันธ์ การทำงานเป็นทีมและการมีทักษะศตวรรษที่ 21 นอกเหนือจากการเรียนในชั้นเรียน

         



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ