อร่อยแบบไทยๆ...ใจชูรส

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อร่อยแบบไทยๆ...ใจชูรส


ถ้าพูดถึงเรื่องของวัตถุเจือปนอาหารที่ใส่เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อย รสชาติดีขึ้น อย่าง "ผงชูรส" มั่นใจเลยว่าคนไทยทุกครัวเรือนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานในการปรุงแต่งรสชาติอาหารในทุกรูปแบบ
สำหรับประวัติความเป็นมาของเจ้าผงชูรสนี้พอสังเขปนั้น ได้เกิดขึ้นมาจากการคิดค้นของ ศ.ดร.คิคุนาเอะ อิเคดะ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพีเรียล ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ค้นพบว่าผลึกสีน้ำตาลที่สกัดได้จากสาหร่ายทะเลที่ชื่อว่า "คอมบุ" นั่นคือ กรดกลูตามิก และเมื่อลองชิมพบว่ามีรสใกล้ เคียงกับซุปสาหร่ายทะเล ซึ่งเป็นอาหารประจำวันของชาวญี่ปุ่นที่บริโภคกันมาหลายร้อยปี เขาได้ตั้งชื่อรสชาติของกรดกลูตามิกที่สกัดได้ว่า "อูมามิ" หลังจากนั้นได้จดสิทธิบัตรการผลิตกรดกลูตามิกในปริมาณมากๆ เป็นที่มาของอุตสาหกรรมผงชูรสในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผงชูรสมีการขายในเชิงพานิชย์ครั้งแรกในปีพ.ศ.2452 ภายใต้ชื่อการค้าเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า อายิโนะโมะโต๊ะ (Ajinomoto หมายถึง แก่นแท้ของรสชาติ) ในประเทศญี่ปุ่น และหลังจากนั้นทางสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา ก็อนุญาตให้ใช้ได้ในอาหารที่บริโภคโดยคนทั่วไป
ส่วนในประเทศไทยเองนั้นก็มีเจ้าผงชูรสนี้ผลิตขึ้นและจัดจำหน่ายโดยคนไทย ในประเทศไทยเช่นกัน นั่นก็คือ แบรนด์ ไทยชูรส ที่ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท ไทยชูรส จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2501 ด้วยฝีมือของ คุณวิชัย ซอโสตถิกุล และเพื่อน ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งมีปริมาณการผลิตผงชูรส 50 ตันต่อเดือน โดยได้รับกรรมวิธีการผลิตจากประเทศไต้หวัน และมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ บนเนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ มีผลการดำเนินการเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา จนสามารถเพิ่มปริมาณผลิตจากเริ่มต้นเดือนละ 50 ตัน มาเป็นเดือนละ 1,200 ตัน และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10 ล้านบาทเป็น 120 ล้านบาท ในปัจจุบัน โดยสามารถกล่าวได้ว่า {apos}บริษัท ไทยชูรส เป็นของคนไทยโดยแท้" โดย ผงชูรสตราชฎา ผลิตจากพืชผลทางการเกษตรเป็นที่นิยมของคนไทยมานานปี และส่งออกจำหน่ายให้แก่ต่างประเทศ ช่วยลดการเสียดุลการค้า และช่วยให้คนไทยมีงานทำกว่า 300 คน บริษัทได้วางนโยบายหลักที่จะพัฒนาการผลิตผงชูรสเพื่อการโภชนการที่ดีของคนไทย
และล่าสุดปีนี้ ชัยชาญ อรุณสมบัติ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยชูรส จำกัด ได้บอกว่า ปี 56 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ตลอดปีไว้ที่ 1,320 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 10% โดยประมาณ โดยในช่วง ครึ่งปีแรกบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราเติบโตใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยวาง แผนทุ่มงบการตลาดกว่า 110 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญยักษ์ใหญ่ "คนไทยใจชูรส" ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักในการขยายฐานลูกค้าในปีนี้ ด้วยการ ใช้สื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ โดยได้เลือกคู่รัก ดาราชื่อดัง "หนูแหม่มและบ๊อบบี้" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรก เข้ามาร่วมชูรสชูรักกับเราในครั้งนี้ ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด "ชูรสให้ชีวิตรัก" เพื่อถ่ายทอดความเป็นคนไทยใจชูรส รวมถึงการใช้สื่อสนับสนุน เช่น เคเบิลทีวี หนังสือพิมพ์ เพื่อครอบ คลุมกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย รวมไปถึงการเข้าร่วมสนับสนุน งานประเพณีท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้แคมเปญ "คนไทย...ใจชูรส" ในขณะเดียวกัน ได้มีการทำการโฆษณา ในตลาดพม่าภายหลังการยกเลิกห้ามนำเข้าผงชูรสเมื่อปีที่ผ่านมา โดยการโฆษณาทางรถแท็กซี่และรถสามล้อ รวมไปถึงโฆษณาตามจุดขายต่างๆ ด้วย
"สำหรับตลาดโดยรวมของผงชูรสยังคงมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 2-3% ต่อปี โดยตลาดครัวเรือน มีแนวโน้มทรงตัว ในขณะที่ตลาดร้านอาหารและอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้คนในยุคปัจจุบันนิยมใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น มีการซื้ออาหารปรุงสำเร็จแทนการประกอบอาหารด้วยตนเอง และในส่วนตลาดส่งออกมีอัตราการเติบโตอย่างดี เนื่องจากสินค้าไทย เป็นที่ยอมรับในคุณภาพเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มตลาด CLMV ประกอบด้วย 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และลุ่มน้ำโขง คือ พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มอาเซียนใหม่ และเป็นตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยอดขายของไทยชูรส มาจากตลาดภายในประเทศ 85% และจากการส่งออกไปต่างประเทศ 15% โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 20% ในตลาดครัวเรือนและร้านอาหาร" ชัยชาญ อรุณสมบัติ กล่าว


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ