สสส.หนุนคนเมืองปลูกผักกินเอง เพื่อสุขภาพที่ดี

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สสส.หนุนคนเมืองปลูกผักกินเอง เพื่อสุขภาพที่ดี


สสส.-เครือข่ายสวนผักคนเมือง หนุนคนเมืองปลูกผัก-ผลไม้กินเอง พึ่งพาตนเองในช่วงวิกฤตโควิด19 เพื่อสุขภาวะที่ดี  หลังผลสำรวจพบมีคนไทยเพียง 4 ใน  10 คนเท่านั้น ที่ได้กินผักผลไม้ในปริมาณเพียงพอ

ทพญ.จันทนา อึ้งชูศักดิ์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.) กล่าวว่า  สสส. มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้คนไทยได้กินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ข้อแนะนำ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี รวมทั้งแนะนำให้ปรับการกินอาหารทุกมื้อต้องมีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผักและผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิรสระ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยสูงถึงร้อยละ 70 แต่จากผลการสำรวจข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า มีคนไทยเพียง 4 ใน  10 คนเท่านั้น ที่ได้กินผักผลไม้ในปริมาณเพียงพอ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากอุปสรรคด้านสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อ เช่น ร้านสะดวกซื้อที่เน้นขายอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารแปรรูปที่มีปริมาณไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง , ร้านอาหารจานด่วนที่มีผักผลไม้เป็นส่วนประกอบน้อย เป็นต้น

นางสุภา ใยเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการสวนผักคนเมือง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ตระหนักถึงปัญหาคนเมืองด้านอาหารมากที่สุด  โดยเฉพาะความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงพยายามยกระดับการพึ่งตนเอง เริ่มจากปรับชุดความคิดคนเมือง ให้รู้จักปลูกผักแบบไม่ใช้สารเคมี ทำให้ทุกคนมีส่วนแสดงความคิดเห็นพัฒนาระบบอาหารยั่งยืนควบคู่กับวิถีชีวิตที่เกื้อกูลธรรมชาติ ผ่านกลไกลการตลาดที่เชื่อมโยงสู่ผู้บริโภคในรูปแบบ City Farm Market  วิกฤตในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ปี2554  ฝุ่น PM 2.5  และโควิด-19  ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและคุณภาพชีวิตของคนเมือง ความท้าทายนี้จะยังคงเป็นปัญหาที่ไม่มีคำตอบและไม่มีทางออก แต่เมื่อเริ่มปลูกผัก คนเมืองจะได้สัมผัสคุณค่าของพื้นดิน ทำให้พวกเขาเข้าใจวิถีเกษตรกรรมธรรมชาติ เราจึงเรียนรู้ว่า การปลูกเมืองคือการปลูกชีวิต

ผศ.ดร.สักรินทร์ แซ่ภู่ อาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า โจทย์สำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างระบบอาหารยั่งยืน คือ การทำให้พื้นที่ชุมชนแออัดไม่ถูกมองในแง่ลบ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “โครงการสวนแบ่งปัน” ที่ใช้วิกฤตโควิด-19 ปรับพื้นที่รกร้างหรือพื้นที่ว่างให้เป็นพื้นที่ปลูกผัก สวนแห่งนี้ไม่ได้มองแค่เรื่องความมั่นคงทางอาหาร แต่ต้องการเปลี่ยนชุดความคิดว่า ชุมชนแออัดเป็นพื้นที่สร้างอาหารปลอดภัย ควบคู่ ความมั่นคงทางอาหาร บนพื้นฐานการเกื้อกูลกันได้ โดยใช้ “ผัก” เป็นชุดเครื่องมือที่ทำให้ทุกคนในชุมชนหันมาช่วยกันดูแล ควบคู่กับการมีผังเมืองที่ทำให้เห็นความสำคัญของพื้นที่อาหาร ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ