ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี กล่าวว่า การแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของของตลาดเดลิเวอรี่ เราจึงจำต้องมีแผนรองรับการเติบโตของตลาดดังกล่าวที่จะยิ่งโตมากขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในสถานที่และแหล่งชุมชนต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น ในการตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้บริโภคในยุคนี้ ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโมเดลใหม่ “เดลโก้ (Delco)” ที่จะช่วยเสริมในส่วนของการขยายฐานการส่งเดลิเวอรี่ให้ครอบคลุมและเข้าถึงทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการขยายโลเคชั่นในรูปแบบของโมบายล์สโตร์ ที่สามารถสับเปลี่ยนไปตามย่านต่างๆ ที่เป็นทำเลเป้าหมาย โดยจะเน้นตามปั๊มน้ำมัน แหล่งชุมชนใหญ่ และพื้นที่รอบนอก เพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังออกแบบให้ดูสดใส ทันสมัย และดึงดูดสายตา ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มโอกาสการขายได้ดียิ่งขึ้น โดยในช่วงแรกนำร่องประเดิมทำใน 2 แบรนด์ใหญ่ก่อน ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท และ อานตี้ แอนส์ เนื่องด้วยในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ยอดการสั่งเดลิเวอรี่ของทั้ง 2 แบรนด์นี้ เติบโตจากปีที่แล้วมากกว่า 300% ดังนั้นจึงได้วางเป้ายอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท ในปี 2564
“ในส่วนงบลงทุนต่อสาขาอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท โดยในช่วงแรกเราอัดงบลงทุนไปมากกว่า 30 ล้านบาทเพื่อรองรับแผนการขยายสาขา ปัจจุบันเปิดแล้ว 1 สาขา คือที่ปั้ม ปตท. นวมินทร์ โดยตั้งเป้าเปิดสาขาจำนวน 10 สาขาภายในปีนี้ (63) หรือจำนวน 25 สาขา ภายในปี 2564 และนอกจากนี้ ในปี 2564 จำนวนสาขาใหม่ของแบรนด์มิสเตอร์ โดนัท กว่า 50% ที่จะเปิดให้บริการ ก็จะเป็นร้านในรูปแบบ Delco Model อีกด้วย”
นอกจากในเรื่องโลเคชั่นและคอนเซ็ปต์ร้านแล้ว อีกความพิเศษของร้าน Delco มิสเตอร์ โดนัท และ อานตี้ แอนส์ คือมีการปรับเมนูที่จำหน่ายที่ร้าน Delco ให้เหมาะสมกับรูปแบบการบริการ เนื่องจากเป็นร้านที่ให้บริการในรูปแบบซื้อกลับ และ เดลิเวอรี่ 100% อาทิ มิสเตอร์ โดนัท จะเน้นเมนูอาหารเช้ามากขึ้น เช่น แซนวิช ครัวซอง อาหารรองท้อง ส่วนอานตี้ แอนส์ จะเน้นเมนูช่วงบ่ายหรือช่วงค่ำซึ่งเป็น mix &match ในรูปแบบ bucket party เหมาะสำหรับการแชร์กันในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน รวมทั้งเมนู signature อย่างเครื่องดื่มเลมอนเนด ในรูปแบบบรรจุขวดและ party size
สำหรับแผนการตลาดหลังเปิดตัว จะเน้นการโปรโมททั้ง offline และ online โดย offline ที่สาขาจะมีการโปรโมทโดยใช้สื่อป้าย J-flag , cut out, leaflet แจก เพื่อให้คนที่มาใช้บริการที่ปั๊มทราบว่ามีร้านของเรามาเปิด ส่วนช่องทาง online มีการโปรโมทผ่านทาง social media อาทิ twitter, instagram, facebook โดยใช้ geographic เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าบริเวณพื้นที่รอบๆ ได้รับทราบข่าวสารของร้าน รวมทั้งการให้ข้อมูลสินค้าหรือโปรโมชั่นต่างๆ