นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ฤดูกาลผลิตปี 2563 เพื่อช่วยเหลือชาวสวนลำไยที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารการผลไม้ ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน โดยมีเป้าหมายเยียวยาชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร 200,000 ครัวเรือน อัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ หรือคิดเป็นวงเงินเยียวยาไม่เกินรายละ 50,000 บาท
มีเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากคณะทำงานตรวจสอบสิทธิ์ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด และกรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เป็นจำนวน 202,013 รายคิดเป็นพื้นที่รวม 1,429,021 ไร่ ใน 56 จังหวัด ครอบคลุมชาวสวนลำไยในภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง โดยรายชื่อทั้งหมดส่งให้ ธ.ก.ส. แล้ว และธ.ก.ส.จะทยอยโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรชาวสวนลำไย 200,000 ราย ทันทีที่ธ.ก.ส. ตรวจสอบบัญชีธนาคารของเกษตรกรแล้วเสร็จภายในปลายสัปดาห์นี้
นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า รมว.เกษตรฯมอบนโยบายให้ดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใสเป็นธรรมและดูแลชาวสวนลำไยอย่างทั่วถึง อย่าให้ตกหล่นเพราะชาวสวนลำไยฤดูกาลผลิตปี 2563 เดือดร้อนอย่างมากจากผลกระทบด้านการผลิตและผลผลิตเพราะสภาพอากาศที่ร้อนแล้งรวมทั้งเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาด้านตลาดและราคา
สำหรับเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ได้รับความเดือดร้อนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติถูกต้องที่เกินจากกรอบของมติคณะรัฐมนตรีจำนวน 2,013 ราย นั้นคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่มี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานจะจัดประชุมเพื่อมีมติเสนอคณะรัฐมนตรีเพิ่มจำนวนเกษตรกรให้ครบถ้วน ทั้งนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาโครงการเยียวยาที่ ธ.ก.ส.จะต้องโอนเงินช่วยเหลือไม่เกินวันที่ 15 ธันวาคมของปีนี้
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งสถาบันลำไย ภายใต้ศูนย์แห่งความเป็นเลิศผลไม้เมืองร้อน ของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) ภายในเดือนหน้า โดยจะทำหน้าที่ในการวิจัยพัฒนา ตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศเนื่องจากลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจ ซึ่งในปี 2562 มีมูลค่าการส่งออกลำไยสด 583,297 ตัน คิดเป็น 20,812 ล้านบาท การส่งออกลำไยอบแห้ง 164,575 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8,780 ล้านบาท ประเทศคู่ค้าสำคัญได้แก่ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฯลฯ โดยมีเกษตรกร 2 แสนครัวเรือนพื้นที่การผลิตกว่า 1.4 ล้านไร่ ครอบคลุม 56 จังหวัด