คมนาคม ใส่เกียร์ 5 ลุยงานปี 64 กางแผนผุด 11 โครงการ หวังวางรากฐานอนาคต

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

คมนาคม ใส่เกียร์ 5 ลุยงานปี 64 กางแผนผุด 11 โครงการ หวังวางรากฐานอนาคต


เมื่อเร็วๆ นี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ควงแขน 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายถาวร เสนเนียม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม แถลงนโยบายปี 2564

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าสานต่อนโยบายเดิมจากปี 2563 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 7 เรื่อง เพื่อให้นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การปรับเวลาเดินรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป, พัฒนาตั๋วร่วมให้สามารถใช้บัตรโดยสารเชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกระบบ, การพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และขนส่งสินค้าทางน้ำจากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

ส่วนปี 2564 นี้ จะขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มเติมอีกจำนวน 11 เรื่อง เพื่อเดินหน้าการพัฒนาระบบคมนาคมเชิงรุก วางรากฐานการพัฒนาสู่อนาคต ได้แก่ 1.ศึกษาแผนแม่บท MR-MAP เพื่อวางแผนพัฒนามอเตอร์เวย์ให้สอดคล้องกับการขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ จำนวน 9 เส้นทาง 5,000 กิโลเมตร(กม.) โดยเบื้องต้นปี 2564 จะใช้งบประมาณจากกองทุนมอเตอร์เวย์ดำเนินการศึกษานำร่อง 3 เส้นทางคือ ชุมพร-ระนอง 120 กม., กาญจนบุรี-ตราด 220 กม. และหนองคาย-แหลมฉบัง 490 กม.

2.ศึกษาแผนโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ Land Bridge โดยพัฒนามอเตอร์เวย์ควบคู่กับรถไฟทางคู่ และเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง ทั้งนี้คาดว่าจะลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 และจะศึกษาแล้วเสร็จในปี 2564

3.ตั้งศูนย์จัดจำหน่ายและกระจายสินค้าโอท็อป, 4.สร้างพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ ปรับภูมิทัศน์พื้นที่ว่างของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้สวยงามร่มรื่น และจัดพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์, 5.ผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า(EV) ในระบบขนส่งสาธารณะ, 6.ศึกษาและกำหนดแนวทางการใช้รถไฟฟ้าล้อยางในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนหลักในภูมิภาค, 7.พัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง(Feeder) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากชุมชนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า, 8.เร่งรัดเปิดให้บริการโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ โดยจะให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย. 2564

9.แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางด่วน ทั้งการผลักดันใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) และปรับปรุงโครงข่ายทางพิเศษและมอเตอร์เวย์ 4 เส้นทาง ได้แก่ มอเตอร์เวย์ช่วงศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ, ถนนประเสริฐมนูกิจ-งามวงศ์วาน, ทางด่วนขั้นที่ 1 ต่างระดับอาจณรงค์ และทางด่วนขั้นที่ 1 ช่วงสะพานพระราม 9-พระราม 2, 10.แก้ปัญหาการจราจรใน จ.ภูเก็ต โดยบูรณาการโครงข่ายทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. ของ กทพ. วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท กับโครงข่ายทางหลวงแนวใหม่ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว ระยะทาง 22.4 กม. วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท และ 11.วางระบบติดตามโครงการขนาดใหญ่ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2564 ยังยืนยันเดินหน้าทำงานใส่เกียร์ 5 เต็มที่ โดยกระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณกว่า 2.7 แสนล้านบาท ขณะนี้เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบสอง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเตรียมพร้อมปรับงบประมาณ และเนื้องานแต่ละโครงการไว้ด้วย แต่ยังให้คงตัวโครงการเอาไว้เหมือนเดิม ซึ่งกรณีนี้เป็นการเผื่อไว้หากวงเงินกู้ในรอบแรกของรัฐบาลไม่เพียงพอ รัฐบาลก็อาจจำเป็นต้องให้แต่ละหน่วยงานกันงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปใช้เป็นงบกลางในการแก้ปัญหาโควิด-19 เหมือนปีที่ผ่านมา 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ