“ดังกิ้น โดนัท” ลั่นไม่กลัวโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งการ์ดรับมืออยู่หมัด ปั้นโมเดล “ฟู้ดทรัก&คีออส” ขยายเจาะปั้มน้ำมันปรับแผนสู้วิกฤติ

วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2564

“ดังกิ้น โดนัท” ลั่นไม่กลัวโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งการ์ดรับมืออยู่หมัด ปั้นโมเดล “ฟู้ดทรัก&คีออส” ขยายเจาะปั้มน้ำมันปรับแผนสู้วิกฤติ


นายภาคิน เพ็ญภาคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านดังกิ้น โดนัท กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมากทั่วโลก ในส่วนของภาพรวมของตลาดโดนัทนั้น ต้องบอกเลยว่า สร้างความท้าทายให้ผู้ประกอบการเป็นอย่างมากรวมถึงดังกิ้นโดนัทเราก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันซึ่งมียอดขายลดลงราว 10% แต่การปรับตัวทั้งการบริหารองค์กร และปรับแผนธุรกิจใหม่ ด้วยการรุกขยายสาขาใหม่เพิ่ม การเจาะลูกค้าที่ชัดเจนในทุกเพศทุกวัย การออกสินค้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง และการรุกหนักจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นต้น

โดยในปีทีผ่านมาแม้จะเจอโควิด-19 แต่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจเชิงรุกลงทุนงบไปราว 70-80 ล้านบาท รวมค่าการตลาดด้วยขยายสาขาประมาณ 30 สาขา และรีโนเวตอีก 20 สาขา ประกอบกับจากสถานการณ์โควิดทำให้บริษัทได้คิดทำโมเดลใหม่ในรูปแบบฟู้ดทรัคกับคีออสขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้กระจายทั่วถึงและสะดวกรวดเร็วง่ายขึ้นต่อการซื้อรับประทานโดยไม่จำเป็นต้องไปที่ห้างสรรพสินค้า โดยได้เริ่มทำตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยขณะนี้เรามีรถฟู้ดทรัคที่ 4 คัน และคีออสอยู่ราว 10 จุด ในช่วงแรกนี้หมุนเวียนสลับสถานที่กันไป เพื่อเจาะเข้าหาลูกค้าให้มากที่สุด ส่งผลให้แม้ยอดขายจะตกลงแต่ภาพรวมบริษัทฯ ยังมีกำไรเติบโตอยู่ประมาณ 30-35 % ในปีที่ผ่านมา หรือคาดว่าจะทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 970 ล้านบาท

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักในไทยระลอกใหม่อีกครั้งในปีนี้ บริษัทก็ยอมรับว่ามีความกังวลกับสถานการณ์ในขณะนี้อยู่เช่นกัน แต่อย่างทราบว่าเราเคยได้เจอประสบการณ์นี้จากรอบแรกที่ผ่านมาแล้วส่งผลให้บริษัทได้เตรียมแผนตั้งรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเราก็ต้องไม่ประมาท เพราะว่าแผนที่เรามีอยู่แล้วนั้นในรอบแรกที่ผ่านมาถือว่าเป็นแผนที่รับมือได้อย่างดีมาแล้ว เราก็ยังจะคงใช้แผนเดิมที่มีแต่ต้องมีการปรับใหม่ให้ทันกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับภาพตลาดรวมโดนัทในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 3,300 ล้านบาท โดยแบรนด์ดังกิ้น มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 32% อย่างไรก็ตาม ในตลาดมี 2 แบรนด์ใหญ่คือดังกิ้นและคู่แข่งอีกราย มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันมากกว่า 80% ของตลาดรวมแล้ว ซึ่งตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยในปี 2564 บริษัทได้เตรียมงบไม่ต่ำกว่า 70  ล้านบาท ในการทำตลาด รวมไปถึงการลงทุนขยายสาขาใหม่อีกกว่า 60 สาขา จากปีที่แล้วมีอยู่ที่ 296 สาขา (ไม่นับฟู้ดทรักกับคีออส) แต่มีปิดสาขาไปบ้างประมาณ 15-18 สาขา อีกทั้งจะเปิดสาขาในโมเดลคีออสก์อีก 10-20 สาขา ซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็ก เน้นการซื้อกลับบ้าน และสามารถเคลื่อนที่ได้ โดยจะเน้นไปที่จุดที่มีทราฟฟิกสูง อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต โรงพยาบาล ที่เรายังมีสาขาไม่มากนัก หรือประมาณ 7-8 สาขา นอกจากนี้ยังเล็งเปิดตามปั๊มต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จากขณะนี้มีทดลองเปิดแล้วปั้มเอสโซ 1 สาขาที่รังสิต และในอนาคตคาดว่าจะขยายเปิดตามปั๊มอื่นๆ ที่ได้พูดคุยอยู่อีก 3-4 แบรนด์ สำหรับการเปิดสาขาในรูปของฟู้ดทรักเรายังขอหยุดไว้ที่ 4 คันก่อนเพราะดีเทลในการรูปแบบฟู้ดทรักมีการลงทุนที่สูงและต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งก็ค่อนข้างหาได้ยาก

ทั้งนี้ ส่วนช่องทางออนไลน์ หรือดีลิเวอรี ปีที่ผ่านก็เติบโตมากขึ้นเพราะโควิดเป็นตัวกระตุ้นสร้างการเติบโตมากถึง 3,000% หรือคิดเป็น 4-5% จากยอดขายรวม โดยตั้งเป้าอนาคตจะเพิ่มเป็น 10%  อีกทั้งปีนี้ เรามีแผนจะก็ทำการออกสินค้าใหม่ทุกเดือน และมีโปรโมชันอย่างน้อย 2 เดือนต่อครั้ง ซึ่งเป็นการทำที่มากกว่าเดิม เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค อัตราการจ่ายยังไม่ตกลงไม่เฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาทต่อบิล โดยสัดส่วนรายได้ยังคงมาจาก โดนัท 80% และเครื่องดื่ม 20% โดยตลาดเติบโตเท่ากันทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ