“โรงไฟฟ้าชุมชน” จำนวน 150 เมกะวัตต์ ที่ทุกคนรอคอยใกล้เปิดประมูลแข่งขันแล้ว แม้ว่าเงื่อนไขจะไม่ดึงดูดภาคเอกชนลงทุนสักเท่าไหร่แต่เหรียญอีกด้านหนึ่งจะสามารถเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเฉียด 2 หมื่นล้านบาทลงสู่พื้นที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะรูปแบบการลงทุนได้เปิดทางให้เกษตรกรในนามวิสาหกิจชุมชนเข้าถือหุ้นบุริมสิทธิได้ 10% ถือเป็นมิติใหม่เปิดกว้างให้เกษตรกรเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าได้ จากเดิมที่จะมีเพียงบริษัทยักษ์ใหญ่ผูกขาดเท่านั้น
โดยนายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยกับ “สยามธุรกิจ”ว่า ถือเป็นข่าวดีที่กระทรวงพลังงานได้ผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนให้เดินหน้าสู่การประมูลและจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชนได้เป็นอย่างดี เพราะการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน 1 เมกะวัตต์ จะต้องใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งการเปิดประมูลรอบนี้มีเป้าหมายการผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชน จำนวน 150 เมกะวัตต์ ก็จะมีเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท กระจายรายได้สู่เกษตรกรโดยไม่ต้องใช้เงินจากภาครัฐเลย
นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบริษัทจะต้องซื้อวัตถุดิบหญ้าเนเปียร์จากเกษตรกรเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าโรงละ 13-14 ล้านบาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นอีกกว่า 2 พันล้านบาทต่อปี
นายชัพล กล่าวด้วยว่า บริษัทมีความความพร้อมทุกด้านหากรัฐบาลอนุมัติเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนโดยได้ตั้งเป้าจะประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนแห่งใหม่ ประมาณ 6-9 เมกะวัตต์ ภายใต้งบลงทุนราว 300-600 ล้านบาท เพิ่มเติมจากโครงการในจังหวัดขอนแก่นที่มีอยู่แล้วราว 3 เมกะวัตต์