สงกรานต์วิถีใหม่ห่างไกลโควิด-19 ...ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย

วันศุกร์ที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2564

สงกรานต์วิถีใหม่ห่างไกลโควิด-19 ...ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย


หลังจากที่ปี 2563 รัฐบาลประกาศล็อคดาวน์ประเทศ และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้สงกรานต์ในปีที่แล้วไม่มีการเล่นสาดน้ำหรือเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่ในปีนี้รัฐบาลได้ผ่อนปรนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดได้ แต่ยังคงห้ามสาดน้ำและปะแป้ง

เทศกาลสงกรานต์กับอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนจับตามองกันทุกปี จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พบว่า ปี 2562 เกิดเหตุ 3,338 ครั้ง บาดเจ็บ 3,442 ราย เสียชีวิต 386 ราย และในปี 2563 เกิดเหตุ 1,307 ครั้ง บาดเจ็บ 1,260 ราย เสียชีวิต 167 ราย สาเหตุจากขับเร็วและดื่มแล้วขับ ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงสำคัญช่วงสงกรานต์ คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 59  พาหนะเสี่ยงสุดคือ มอเตอร์ไซต์(ส่วนบุคคล) เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ร้อยละ 79.39 รองลงมาคือรถปิกอัพ ร้อยละ 6.35 นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี บาดเจ็บและเสียชีวิต สูงถึงร้อยะ 17.80 

ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ( สคอ. )ร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์  “ชีวิตวิถีใหม่ สงกรานต์ดื่มไม่ขับ คิดถึง...กลับให้ถึง อย่างปลอดภัย” โดยเน้น “ดื่มไม่ขับ-สวมหมวกกันน็อก-ขับไม่เกิน 80”

 “สงกรานต์ปีนี้น่าจะมีวันหยุดยาวติดต่อกัน 6-9 วัน คาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางทั้งกลับบ้านและท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากปีที่แล้วหลายคนไม่ได้กลับบ้านเพราะสถานการณ์โควิด-19 เมื่อจำนวนผู้เดินทางสูงโอกาสกิดอุบัติเหตุจึงสูงตามไปด้วย”นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ  ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าว

นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวว่า ในปีนี้ สสส.และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนได้รณรงค์ ลดอุบัติเหตุ โดยมุ่งเน้นไปที่ “ดื่มไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก และขับไม่เกิน 80” เพราะอุบัติเหตุทำให้ใครหลายคนเดินทางกลับไม่ถึงบ้าน สสส.จึงมาชวนทุกท่านใช้ความคิดถึงกันให้คุ้มค่า เดินทางให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย

“ในเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ที่ได้ออกมาตรการห้ามขายแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 ซึ่งได้ผลอย่างมากทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง และยังส่งผลให้อุบัติเหตุทางถนนลดลงตามไปด้วย พบ ช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงถึง 43% เมื่อเทียบกับปี 2562 และทำให้ยอดผู้ถูกคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับเฉพาะเดือนเมษายน 2563 ลดลงถึง 96% เมื่อเทียบกับปี 2562 หากประชาชนและทุกหน่วยงานช่วยกัน เชื่อว่าเราจะฉลองทุกเทศกาลได้อย่างปลอดภัย“  นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว

 ด้าน นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าว ในปีนี้ สคอ.ได้เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงช่วยเผยแพร่ข่าวสารให้ถึงประชาชนในการขับขี่ปลอดภัย เน้นย้ำถึงความเสี่ยงและโทษของการดื่มแล้วขับ ขับเร็วและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น  ตลอดจนผลิตสื่อประชาสัมพันธ์กระจายแก่ภาคีทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน

จากข้อมูลยังพบว่า กลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ด้าน นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ  เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนมีโอกาสการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นหรือความจำเป็นต่อการใช้รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ต่างจังหวัด จึงเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในกลุ่มนี้มากขึ้นเช่นกัน จากข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน จำนวน 1,151 คน เรื่องความเชื่อและสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย ปี 2562 ระบุว่าเด็กและเยาวชนกว่าร้อยละ 26.2 เคยเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ล้มและลื่นไถล  และกว่าร้อยละ 9.4 ถูกเฉี่ยวชนขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวร้อยละ 5.4 ได้รับบาดเจ็บสาหัส 

“เทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ กลุ่มวัยรุ่น คือ กลุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง เพราะขับด้วยความเร็ว คึกคะนอง  ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ค่อยสวมหมวกกันน็อก เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความสูญเสีย จึงอยากฝากไปถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้ถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ที่ปลอดภัย ไม่ไปเพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อตนเองและผู้อื่น”ด้าน นายพชรพรรษ์ กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ