“พาว มิราเคิล” ผนึก “ไทยสติ๊คเฮิร์บ” ปั้นสินค้า เกาะกระแส กัญชง-กัญชา ดันยอดแตะ 100 ลบ.

วันเสาร์ที่ 03 เมษายน พ.ศ. 2564

“พาว มิราเคิล” ผนึก “ไทยสติ๊คเฮิร์บ” ปั้นสินค้า เกาะกระแส กัญชง-กัญชา ดันยอดแตะ 100 ลบ.


นายอธิชาติ ชุมนานนท์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัทฝ่ายการตลาด บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของสินค้าที่มีสารสกัด CBD และ HEMP จากกัญชงและกัญชา เนื่องจากในขณะนี้กำลังเป็นเทรนด์ของผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาเล่นในตลาดจำนวนมาก บริษัทมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะเข้ามาทำธุรกิจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่ แต่หากมีพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือและสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงจุดตามที่ผู้บริโภคต้องการได้ ก็มั่นใจว่าจะตอบสนองตลาดได้เป็นอย่างดี 

ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ ไทยสติ๊คเฮิร์บ และวิสาหกิจชุมชนบ้านทุ่งแพม ผู้ผลิตสารสกัด CBD และ HEMP จากกัญชงและกัญชา เป็นพันธมิตร โดยจะใช้บริษัท ซีเอ็มเอช เชียงใหม่  โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ผลิตเนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชงและกัญชานั้น จะเป็นเรื่องของการผ่อนคลายและสดชื่นเป็นหลัก บริษัทจึงเตรียมออกสินค้าสู่ตลาดประมาณ 5 รายการในปี 2564 ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์ดับกลิ่นปาก , สเปรย์ฉีดพ่นหมอนเพื่อช่วยผ่อนลาย หรือช่วยนวดแบบอโรม่า และแคบซูลต่างๆ ขณะเดียวกันในเฟสต่อไปยังมีแผนที่จะรุกตลาดเครื่องดื่ม อาทิ กาแฟ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น 

เดิมทีเรามองว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าน่าจะเป็นผู้ที่รักสุขภาพอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่ระยะหลังจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีต้องการสร้างภูมิคุ้มกันมากขึ้น เริ่มดูแลสุขภาพกันตั้งแต่เด็ก ทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นที่ต้องการในตลาด โดยในปีแรกหลังจากเปิดตัวสินค้าที่มีสารสกัดจากกัญชงและกัญชาไปแล้ว คาดการณ์ว่าจะมียอดขายระดับ 100 ล้านบาท

ส่วนแนวทางการทำตลาดบริษัทเตรียมงบประมาณไว้ 30-40% ของยอดขาย เพื่อใช้ในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ เน้นการให้ความรู้อย่างถูกต้องแก่ผู้บริโภค เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างมาก รวมถึงยังต้องเทรนด์ตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ 50 ตัวแทน เพื่อนำเสนอสินค้าได้อย่างถูกวิธี บริษัทมองว่าในระยะแรกจะคค่อยๆ สร้างการเติบโตไปก่อน จากนั้นจึงจะเพิ่มช่องทางการทำตลาดและสื่อสารในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น 

นายอธิชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้นำพาว ซุยยากุ เอสเซนส์ ทำตลาดมาระยะหนึ่ง พบว่ามีผลตอบรอบที่ดีเป็นอย่างมาก หรือมีอัตราการเติบโตเดือนละ 30% แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 จะยังคงมีปัจจัยลบเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แต่บริษัทก็พยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันยอดขาย พร้อมกับสร้างแบรนด์พาวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ