ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของผู้ต้องขังนั้นไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายดายนัก เมื่อต้องเจอกับสายตาของความคลางแคลงใจและคำปฏิเสธจากหลายๆ โอกาส ด้วยเหตุนี้ “อาชีพ” จึงเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้อดีตผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเองหลังพ้นโทษได้ และที่สำคัญ การช่วยเตรียมความพร้อมด้านทักษะอาชีพ รวมไปถึงการเงินเบื้องต้นให้กับผู้ต้องขัง ยังจะช่วยให้ก้าวแรกหลังพ้นโทษไม่ลำบากเกินไปนัก

โดย กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จึงได้ร่วมมือกับลาซาด้า ประเทศไทย เปิดร้าน “วันสุข” บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขัง เป็นการต่อยอดกิจกรรมส่งเสริมทักษะด้านอาชีพของกรมราชทัณฑ์ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายพัฒนา กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า แม้ผู้ต้องขังจะเคยผิดพลาดมาก่อน แต่เมื่อตั้งใจปรับปรุงพัฒนาตนจนพ้นโทษก็สมควรได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง กระทรวงยุติธรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำให้สามารถพึ่งพาตนเองทางการเงิน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมได้อีกครั้งและลดแนวโน้มในการกระทำผิดซ้ำ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้จะช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายให้กับผู้ต้องขังได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ต้องขังในการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นภายหลังพ้นโทษและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดตั้งร้าน “วันสุข” บนลาซาด้ามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยความร่วมมือดังกล่าวยังสอดคล้องกับโครงการ “Stronger Together จากใจถึงใจสู้ไปด้วยกัน” ของลาซาด้า ซึ่งดำเนินตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวข้ามความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ด้าน นายวีระพงศ์ โก รองประธานอาวุโสฝ่ายอีคอมเมิร์ซ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ลาซาด้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลในโครงการนี้ ในฐานะแพลตฟอร์มที่มุ่งสนับสนุนผู้ขายมาโดยตลอด เราเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์หรืออดีตอย่างไรมาก่อน ความร่วมมือนี้เป็นแค่ก้าวแรกในการเพิ่มศักยภาพด้านการเงินในอนาคตให้กับผู้ต้องขัง ด้วยความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานด้านอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยี เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต่อยอดความร่วมมือนี้สู่การถ่ายทอดทักษะด้านดิจิทัลและธุรกิจให้กับผู้ต้องขัง เราต้องการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้สามารถเข้าถึงโอกาสด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลังพ้นโทษ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์กับตัวผู้ต้องขัง ครอบครัว และชุมชน แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจไทยโดยรวมอีกด้วย”

ปัจจุบัน ร้าน “วันสุข” บนลาซาด้า จำหน่ายสินค้าแฮนด์เมดจากผู้ต้องขังในเรือนจำกว่า 40 รายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์จักสาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ กระเป๋าถือ พวงกุญแจ ผ้าทอ และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักช้อปอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าขนาดเล็กประเภทกระเป๋าถือ  พวงกุญแจ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ขนาดเล็กเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักช้อปลาซาด้าเป็นพิเศษ สะท้อนถึงศักยภาพในการต่อยอดสินค้าของกรมราชทัณฑ์ในหลากหลายประเภท โดยสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 3,000% (หรือ 30 เท่า) เป็นหลักแสนต่อเดือน ภายใน 4 เดือน รวมถึงมีผู้เข้าชมสื่อทางการตลาดออนไลน์มากกว่า 700,000 คน และกำไรสุทธิจากการจำหน่ายสินค้าทุกชิ้นจะถูกนำไปพัฒนาทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ รวมถึงเป็นเงินออมของผู้ต้องขังที่เข้าร่วมการฝึกอาชีพสำหรับเริ่มต้นชีวิตใหม่ภายหลังพ้นโทษ