สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การกระชับความสัมพันธ์กับผู้ใช้งานถือเป็นกลยุทธ์หลักที่ช้อปปี้นำมาปรับใช้ในด้านการสื่อสารเพื่อให้เราเข้าถึงผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมศักยภาพการเติบโตและกระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์ธุรกิจกับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องห่างไกลกัน ทีม‘ช้อปปี้’ ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาธุรกิจเพื่อ ‘Stay Connected’ กับผู้ใช้งาน มุ่งตีโจทย์ความท้าทายในการคิดค้นและผลิตคอนเท้นต์ที่สด ใหม่ ต่อเนื่อง และแตกต่าง พร้อมต่อยอดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบเพื่อให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ  โดยตั้งใจมอบความสนุกและเข้าถึงผู้ใช้งานด้วยการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อการสื่อสารที่ครอบคลุม โดยคอนเท้นต์ของแต่ละช่องทางจะถูกออกแบบให้แตกต่างกันไปเพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน

จากผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนในประเทศไทยประจำปี 2563 โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ETDA) พบว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดียและช้อปปิ้งออนไลน์ถือเป็นกิจกรรมออนไลน์ยอดนิยมติด 1 ใน 10 อันดับของคนไทย  ‘ช้อปปี้’ จึงเล็งเห็นถึงกระแสนิยมของสื่อโซเชียลมีเดียและเชื่อว่าการเลือกใช้แพลทฟอร์มได้อย่างเหมาะสมและเข้าถึงกลุ่มนักช้อป พร้อมตอบโจทย์ทางธุรกิจในเวลาเดียวกัน จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางการตลาดให้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย 

1. Shopee Live: ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมมิ่งสุดพิเศษที่จะเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับผู้ใช้งานได้อย่างใกล้ชิดและทันท่วงที โต้ตอบกันแบบ real time ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ตอบคำถามผ่านแชท และสามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้าง engagement และยอดขายได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคอนเท้นต์ที่มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้งาน สาธิตวิธีการใช้สินค้า หรือเชิญชวนเหล่าเซเลบริตี้มาแนะนำสินค้าเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น

2. Facebook: โซเชียลมีเดียที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด ช้อปปี้ใช้ Facebook เพื่อเชื่อมต่อและสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านคอนเท้นต์ที่ตอบโจทย์ความสนใจด้านเทรนด์และกระแสนิยมต่างๆ ในแต่ละช่วง ปัจจุบัน ช้อปปี้มีผู้ติดตามในช่องทาง Facebook มากกว่า 20 ล้านคน โดยช้อปปี้ยังได้จำแนก Facebook ออกเป็นหมวดหมู่เพื่อคัดสรรคอนเท้นต์ที่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม อาทิ Shopee Food, Shopee Games, Shopee Stores, Shopee Moms และอื่นๆ

3. Instagram: แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้เพื่อสร้างการรับรู้ที่น่าจดจำแก่ผู้ใช้งานด้วยการนำเสนอภาพที่สะดุดตาและข้อความที่ไม่เน้นการขาย เพราะผู้ใช้งานจะใช้เวลากับแต่ละคอนเท้นต์เพียงไม่นานในการดู อีกทั้ง ช้อปปี้ยังขยายช่องทางอินสตาแกรมเพิ่มอีก 2 ช่องทาง คือ shopeefashion_th และ shopeebeauty_th ไว้ให้สำหรับสาวกช้อปปี้ที่ชอบอัพเดทเทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ไอเท็ม รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ อีกด้วย 

4.Twitter: ช้อปปี้ใช้ Twitter เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้งานแบบแอ็คทีฟและมีปฏิสัมพันธ์ตอบโต้กันอย่างรวดเร็ว คนไทยนิยมการพูดคุยแบบสบายๆ สั้นกระชับ และต้องการรู้ ความเคลื่อนไหวล่าสุด วัตถุประสงค์หลักของการใช้ Twitter เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้งานของเราเกี่ยวกับโปรโมชั่นพิเศษและการสร้างปฎิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานในกิจกรรมพิเศษต่างๆ อาทิ การสื่อสารกับกลุ่มสาวก K-pop ผ่านทาง Twitter ที่ช้อปปี้สามารถพูดคุยเรื่องราวที่เป็นที่สนใจในเฉพาะกลุ่มทำให้เข้าถึง เข้าใจ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่เป็นสาวก K-Pop ได้ดียิ่งขึ้น

5. TikTok: ด้วยรูปแบบคอนเทต์วิดีโอสั้นๆ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง Tiktok จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจนขึ้นเป็นแบรนด์อีคอมเมิร์ซที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยยอดผู้ติดตามเกือบ 1 ล้านคน และยังมียอดไลค์มากกว่า 16 ล้านไลค์ โดยวิดีโอที่ได้รับความสนใจมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ วิดีโอรีวิวสินค้า แจกโค้ดส่วนลด และเรื่องตลกขำขัน