ไทยจับมือประเทศกลุ่มอาเซียน ร่วมประชุมเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์การเกษตร หารือสร้าง Single Brand สินค้าสหกรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ แนะตั้งคณะทำงานพัฒนาสหกรณ์อาเซียน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาด้านการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายของสหกรณ์การเกษตรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน" เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างสหกรณ์อาเซียน โดยมีตัวแทนสหกรณ์จากประเทศกลุ่มอาเซียนร่วมประชุม ณ โรงแรม Golden Tulip กรุงเทพฯ
นายสมชาย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากการจัดงานสหกรณ์สินค้า ปี 2556 ภายใต้แนวคิด "สหกรณ์สร้างเศรษฐกิจอาเซียน" เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างสหกรณ์สมาชิกอาเซียน ในการนำไปสู่ความสำเร็จ ผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้า มีการแลกเปลี่ยนการค้าเกิดขึ้น โดยเฉพาะการหารือในการสร้างแบรนด์สหกรณ์ร่วมกัน ให้เป็น Single Brand ของสหกรณ์ในกลุ่มอาเซียน เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่มีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ มีแต่นักพัฒนาการด้านการเกษตร การประมง และป่าไม้ ซึ่งเห็นว่า ควรจะมีนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ หรือเวทีเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือระดับอาเซียน และตั้งคณะทำงาน (Working Group) เป็นพิเศษ ที่จะพัฒนาสหกรณ์อาเซียนเป็นสำคัญ เพราะอย่างน้อยได้มีการทำความรู้จักและทำความเข้าใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และขบวนการสหกรณ์ด้วยกัน ซึ่งในอนาคตการแลกเปลี่ยนความรู้สหกรณ์ที่มีการศึกษาดูงานระหว่างกันจะได้เกิดขึ้นและง่ายขึ้น หากเป็นอาชีพเดียวกันจะง่ายต่อการตกลงร่วมกันในเวทีอาเซียน
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมอย่างเช่น ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่สินค้าไม่แตกต่างกันมากนัก บางอย่างคล้ายกับประเทศไทย หากประเทศอื่นมีรูปแบบที่แตกต่างกว่า สามารถทำให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น หรือ Common Product คือสินค้าร่วมกันในอาเซียน ซึ่งต่อไปในอนาคตจะมีการ กำหนดมาตรฐานร่วมกัน หรือจะใช้แบรนด์เดียวกันในอนาคต และจะมีกิจกรรมร่วมกันในเวทีอาเซียนครั้งที่ 1 และสิ่งหนึ่งที่อยากเห็นเป็นรูปธรรมคือ ความร่วมมือในคณะทำงานที่เกิดขึ้น และการพัฒนาสินค้าระหว่างสินค้าแบรนด์สหกรณ์ และหากสามารถนำมารวมกันเป็นสินค้าชนิดเดียวกัน ซึ่งอาจจะเป็นผู้ผลิตเดียวกัน และขายในประเทศด้วยกันทั้งหมด ต้องยอมรับว่าใน 10 ประเทศนั้นจะไม่มีการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง บางประเทศเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ และการที่จะออกจากตลาดอาเซียนเพื่อก้าวสู่ตลาดโลกสามารถพูดคุยหรือตกลงกันได้
"สินค้ามีแบรนด์สหกรณ์สามารถสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลกได้และเกิดผลประโยชน์ในภาพรวม อย่างกรณีสินค้า ของประเทศอียูมีสินค้าวางอยู่ทั่วไป เช่น ไวน์ จะเป็นแบรนด์สินค้าของประเทศฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ประเทศอื่นก็มีไวน์ ถ้าสินค้าเหล่านั้นออกมาแบรนด์เดียวกัน ที่เดียวกัน ลักษณะจะออกมาเหมือนๆ กัน ฉะนั้นในอาเซียนประเทศไทยอาจจะเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรหลายๆ ชนิดเหมือนกัน แต่อย่างน้อยหากเรามีมาตรฐานเดียวกันสามารถประกาศออกมาว่า สินค้ามาตรฐานสหกรณ์คือสินค้าที่ควรจะได้รับการยอมรับ และที่สำคัญผู้ผลิตสินค้าต้องดูว่า เกิดผลกระทบกับคนหรือชุมชนหรือไม่ อย่างสหกรณ์ตั้งอยู่ในชุมชนหากผลิตสินค้าอะไร จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวด ล้อมเป็นหลักสิ่งเหล่านี้จะเป็น Standard สินค้าเหล่านี้จะได้เปรียบเมื่อเข้าสู่ตลาดโลกที่ให้ความสำคัญมาก ในด้านการใช้แรงงานและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน" นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย