Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
ชาอัสสัมปลูกง่าย เก็บขายทั้งต้น
ชาอัสสัมปลูกง่าย เก็บขายทั้งต้น
วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
ทีมงาน "เกษตรเงินล้าน" ได้มีโอกาสไปเยือนเมืองแห่งความสุขลำดับที่ 1 ของประเทศ ซึ่งมีพระธาตุ ประจำวันเกิดที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้ชาวพุทธ กราบไหว้ จังหวัดนั่นก็คือ "จังหวัดนครพนม" ซึ่งจากการเดินทางไปครั้งนี้ทางทีมงานฯ ได้ไปพบกับเกษตรกร คนหนึ่งที่นอกจากที่บ้านจะเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดแล้วยังจะมีการปลูกพืชที่หายากอีกด้วย
พืชที่ปลูกนั่นคือ "ใบชาอัสสัม" หรือ "ชาผู่เอ๋อ" ปลูกกันมากที่เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ซึ่งมีสรรพคุณมากมาย เช่น สามารถละลายไขมันในหลอดเลือด ควบคุม เบาหวาน และอื่นๆ ดังนั้น ฉบับนี้จึงขอพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับใบชาอัสสัมรวมถึงวิธีการปลูกและเก็บเกี่ยวกัน โดยเกษตรกรที่จะมาเล่าให้เราฟังคือ "คุณกรกนก วงศ์ประชาสุข" พำนักพักพิงอยู่ที่บ้านเลขที่ 48 ม.5 บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม โทร.042-522430
"คุณกรกนก" เล่าให้ทีมงานฯ ฟังว่า "พี่ปลูกชาอัสสัมแบบผสมผสานกับพืชชนิดอื่นบนพื้นที่ 5 ไร่ โดยดินที่เหมาะกับการเพาะปลูกต้องเป็นดินดำปนทราย นอกจากนี้อากาศต้องชื้น ไม่ใช่ว่าปลูกได้ทั่วไป สำหรับการเพาะขยายพันธุ์นั้นตนจะใช้เมล็ดในการ เพาะ โดยจะเก็บเมล็ดช่วงเดือนตุลาคมเพราะจะแก่เหมาะที่จะนำมาขยายพันธุ์ได้ หลังจากนำเมล็ดมาปลูกลงดินแล้วประมาณ 12-1 เดือน ต้นก็จะงอกออกมาและตนก็จะปล่อยให้อายุประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับดิน จึงจะเก็บดอกมาขายได้ ทั้งนี้การปลูก ตนจะทำแบบธรรมชาติ หรือเกษตรชีวภาพ ซึ่งจะไม่มีการใช้สารเคมีเลย"
มาถึงตรงนี้ "คุณกรกนก" ได้เล่าถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นชาอัสสัมว่า "ชาอัสสัมสามารถนำมาบริโภคได้ทุกส่วนทั้งยอด ดอก ใบอ่อน และใบแก่ โดยใบกับดอก ต้องนำมาตากแดดให้แห้งซึ่งจะเก็บมาตากเฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น สาเหตุที่ต้องเก็บมา ตากแดดเฉพาะหน้าแล้งอย่างเดียวเพราะฤดูอื่นจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ และสาเหตุ ที่ไม่นำไปอบเพราะจะทำให้รสชาติไม่อร่อย อีกทั้งคุณภาพจะลดลงประมาณ 50% เนื่อง จากถูกความร้อนมากเกินไป การนำมาตากแดดนั้นเป็นวิธีธรรมชาติที่ดีที่สุดคุณภาพหรือ คุณค่าของชาก็จะไม่ลดลงด้วย แล้วในการตากแดดนั้นไม่จำเป็นว่าต้องตากกี่วัน แต่ให้สังเกตว่าแห้งกรอบก็พอ อย่าให้มีความชื้นเหลืออยู่เพราะจะทำให้เสียหายได้"
"สำหรับสรรพคุณของชาอัสสัมนั้นถ้าเป็นดอกกับใบนั้นจะมีสรรพคุณช่วยลดไขมัน ต้านโรคมะเร็ง ลดคอเลสเตอรอล ควบคุมเบาหวาน แต่ถ้าจะแตกต่างกันเรื่องของความ อร่อยเพราะดอกจะออกปีละครั้งจึงทำให้มีรสชาติดีกว่า และส่วนยอดของชาอัสสัมนั้นถ้านำมาเคี้ยวกินวันละ 2 ยอด จะแก้เรื่องโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่"
ก่อนจะจากกัน "คุณกรกนก" ได้บอกถึงราคาจำหน่ายชาอัสสัมให้ฟังว่า "สำหรับสนนราคาขายชาอัสสัมนั้นดอกจะขายปีละ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นใบชาจะมีขายตลอดทั้งปี โดยจะ บรรจุถุงถุงละ 2 ขีด จำหน่ายถุงละ 100 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถเดินทางมาซื้อได้ด้วย ตนเองหรือโทร.มาสั่งจองแล้วให้ส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวก"
เป็นอย่างไรบ้างกับการเพาะปลูกชาอัสสัมของ "คุณกรกนก วงศ์ประชาสุข" คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้อ่านนะ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสั่งซื้อ ชาอัสสัมก็สามารถกรี๊งกร๊างไปตามเบอร์โทร.ข้างต้นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
กาญจนบุรี เปิดงานใหญ่ Yard OTOP Sale “กา...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ