เอ่ยถึงภาคตะวันออกของไทย ถือเป็นแหล่งผลิตไม้ผลที่สร้างชื่อให้ประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง โดยแต่ละปีจะมีผลผลิตออกมาในปริมาณมากสร้างรายได้ให้เกษตร- กรจำนวนมหาศาล ทว่าในปีนี้ผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ออกดอกและติดผลช้ากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพการเปลี่ยน แปลงภูมิอากาศ โดยปัจจุบันผล ผลิตผลไม้ในพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ในระยะติดผลอ่อน และระยะเติบโต ทางผลและอาจจะออกสู่ตลาดช้ากว่าฤดูกาลปกติประมาณ 1 เดือน
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออกในฤดูกาลนี้น่าจะมีปริมาณลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณฝนตกต่อเนื่องในช่วงต้นปีส่งผลให้ไม้ผลติดดอกน้อยกว่าปกติ จึงทำให้ผลผลิตลดลงและทยอยออกมาไม่กระจุกตัวเหมือนทุกปี ประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดพายุฤดูร้อน ทำให้ผล-ผลิตทั้งทุเรียนและเงาะได้รับความเสียหายจำนวนหลายพันไร่ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีผลผลิตลดลงไม่น้อยกว่า 30% ทั้งนี้ กระ-ทรวงเกษตรฯ ได้อนุมัติงบประมาณเพี่อช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ตะวันออกปี 2556 โดยได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมส่งเสริมการ เกษตร ประชุมร่วมกับโมเดิร์นเทรดให้เข้าร่วมโครงการกำหนดช่วงระยะเวลาและปริมาณการรับซื้อผลผลิตผลไม้จากเกษตรมาจำหน่ายถึงผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะทำให้สามารถคาดการณ์ผลผลิตส่วนเกินได้อีกทางหนึ่งด้วย นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออก
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เพื่อเป็น การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ผลไม้ล้นตลาด กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะดูแลผลผลิต ของทุกสหกรณ์ ในด้านการเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับนำไปรวบรวม ผลผลิตของสหกรณ์เพื่อนำมาจำหน่ายหรือนำมาเก็บไว้เพื่อรอช่วงราคาดีขึ้น หรือเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เตรียมมาตรการกระจายผลไม้ออกจากแหล่งผลิต เพื่อส่งไปจำหน่ายยังผู้บริโภคโดยตรง จึงเชื่อมั่นว่าปีนี้สถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออกไม่น่าจะมีปัญหามากนัก
กรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโยบายในการสนับสนุนให้สถาบันเกษตรกรพัฒนาคุณภาพผลไม้ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการเก็บเกี่ยว การแปรรูปผลไม้ต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าที่ดี และยังส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรรวบรวมและกระจายผลไม้ไปสู่ตลาดต่างๆ อันได้แก่ ห้างสรรพสินค้า บริษัทส่งออก และมีการจัดงานเทศกาลบริโภคผลไม้ไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงฤดูกาลผลไม้ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดสามารถระบายผลผลิตได้อีกทางหนึ่ง และถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรสมาชิกสถาบันเกษตรกร โดยเกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตให้กับผู้บริโภคโดยตรง และยังเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้และรับทราบความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้ ทางกรมฯ มีนโยบายที่จะให้ทางสหกรณ์ฯ มีผลไม้ที่มีคุณภาพ เนื่องจากว่าผลไม้ที่มีคุณภาพนั้นจะทำให้สหกรณ์สามารถทำตลาดได้ และสิ่งที่ตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดบนหรือตลาดล่างและผู้บริโภคต้องการคือผลไม้ที่มีคุณภาพ เช่น ดูสวยงาม ไม่เน่าเสีย รูปลักษณ์ดี โดยทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำสวนผลไม้ให้มีคุณภาพ นอกจากนั้น ก็ให้มีการจัดตั้งกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ให้ผลิตผลไม้คุณภาพ เพื่อให้มีปริมาณเข้าสู่สหกรณ์ได้ ในขณะเดียวกันกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็สนับสนุนเรื่องเงินทุนหมุนเวียนให้กับสหกรณ์ เพื่อไปใช้ในการรวบรวมผลผลิต จากสมาชิก นำผลผลิตออกไปสู่ตลาดต่างๆ นอกจากนั้นกรมฯ ก็ได้สร้างเครือข่ายผลไม้ขึ้น เพื่อให้สหกรณ์ที่ไม่มีความสามารถทำตลาดได้ ส่งผลไม้ให้กับสหกรณ์แม่ โดยสหกรณ์แม่จะทำตลาด โดยการส่งให้โมเดิร์นเทรด หรือผู้ส่งออกต่อไป 
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรชาวสวนผลไม้ควรมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์สภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบกับผลผลิต รวมถึงสินค้ากระจุกตัวซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำทุกปี โดยการปลูกผลไม้นอกฤดู แปรรูปผลผลิตสร้างมูลค่าเพิ่ม และที่สำคัญคือการรักษามาตรฐานการผลิตและการบรรจุภัณฑ์ให้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตได้ราคาดีและเป็นที่ต้องการกับผู้บริโภคมากขึ้น