งัดมาตรการเร่งด่วน ฉุดราคายาง ดึง 7 บริษัทเอกชน รับซื้อล่วงหน้า

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

งัดมาตรการเร่งด่วน ฉุดราคายาง ดึง 7 บริษัทเอกชน รับซื้อล่วงหน้า


จากสถานการณ์ยางพาราที่ประสบปัญหาตกต่ำในขณะนี้ หลายฝ่ายได้ประชุมวิเคราะห์ปัญหาว่า แท้จริงแล้วเกิดจากปัจจัยหลายประการ อาทิ พบว่ามีการใช้ยางในสัดส่วนการโตที่น้อยกว่าสต็อกยางในโลกที่เกินอยู่ประมาณ 500,000 ตัน และกระแสการแข็งค่าเงินบาท ขณะเดียวกัน ราคายางมีการปรับตัวลดลงเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ได้ส่งผลให้ราคายางตกต่ำลง
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาในระยะยาวและนำมาตรการที่ช่วยยกระดับเสถียรภาพราคายางให้สูงขึ้นมาใช้อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยางน้อยที่สุด
โดยหนึ่งในมาตรการเร่งด่วนที่ที่ประชุมเห็นชอบในขณะนี้คือ เร่งให้มีการซื้อขายยางพาราผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเอฟอีที) ร่วมกับบริษัทเอกชนในราคานำตลาดที่ 110 บาท/กก. ให้ดำเนินการในรูปธรรมให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2556 นี้ สำหรับการซื้อขายยางผ่านเอเอฟอีทีจะร่วมมือกับ 7 บริษัทรวมมีเงินกองทุน 210 ล้านบาท ซื้อยางได้ประมาณ 5 หมื่นตัน โดยคาดว่าเมื่องบประมาณแต่ละหน่วยงานรวมกันแล้ว จะก่อให้เกิดปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ย 300-400 สัญญาต่อวัน
นอกจากนี้ ทาง AFET ได้ยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวสามารถกระทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ถือเป็นการแทรกแซงราคายางแต่อย่างใด แต่เป็น การซื้อขายผ่านตลาดล่วงหน้า โดยหากมีผู้ขายจากต่างชาติเข้ามาขายยางพารา AFET สามารถควบคุมการซื้อขายได้ และคาดว่าจะสามารถรับซื้อยางพาราได้ประมาณ 42,000 ตัน ซึ่งจะสามารถปรับราคายางพาราให้เข้าสู่เสถียรภาพที่กิโลกรัมละ 110 บาทได้ ผ่านหน่วยงานเอกชนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) บริษัท ศรีตรัง แอโกร อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท เซาท์ แลนด์ รับเบอร์ จำกัด และบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด 
"รัฐบาลมุ่งเน้นแก้ปัญหาเสถียรภาพราคายางในระยะยาว เพราะต้องการสร้างเสถียรภาพความมั่นคงให้อาชีพชาว สวนยาง โดยมุ่งที่จะรักษาเกษตรกรให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมั่งคงและยั่งยืนภายใต้การกำหนดนโยบายตามความเป็นจริง โดยมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเกษตรกรชาว สวนยาง ดึงเอกชนร่วมลงทุนหน่วยงานละ 30 ล้านบาท รวม 210 ล้านบาท เพื่อนำมารับซื้อยางพารา 110 บาท/กก.ในตลาด AFET เชื่อมั่นจะกระตุ้นราคายางให้สูงขึ้น" ยุทธพงศ์ กล่าว 
ขณะที่ทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) โดย วิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการ สกย. ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยเกษตร โดยศูนย์ผู้นำธุรกิจ เพื่อสังคมแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ศธส.) เน้นการพัฒนาธุรกิจเกษตรกรชาวสวนยาง Smart Rubber ให้ได้ตามวัตถุประสงค์ โดยทางสกย.เน้นรูปแบบการพัฒนาบุคลากรขององค์กร และความสามารถในการทำธุรกิจของเกษตรกร โดยทางมหาวิทยาลัยเกษตรนั้นมีองค์ความรู้เฉพาะด้านในการทำงาน และตระหนักดีว่าเป็นผู้ที่จะเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกรอย่างกว้างขวาง และยังมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญอีกด้วย
ซึ่งจากการหารือกันมีความคิดเห็นร่วมกันว่า จะพัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น เรียนรู้ทางด้านเกษตรกร วิธีการทำสวนยางโดยให้มีการสนับสนุนการปลูกยางโดยการลดต้นทุนเพิ่มรายได้ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกษตรกรนั้นทำธุรกิจด้านยางพาราได้อย่างเต็มความสามารถ เช่น การแปรรูปยางพารา การทำตลาดยาง การบริหารจัดการตลาดยางพารา และการบริหารสถาบันเกษตรกรได้อย่างถูกวิธี รวมถึงการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ หรือการลดต้นทุนการผลิตยางตามโครงการของนโยบายรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ ยังให้ความช่วยเหลือเรื่องการบริหารจัดการราคายาง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นกรอบในการพัฒนารูปแบบต่างๆ ต่อไป และทางมหาวิทยาลัยเกษตรฯต้องพัฒนาบุคลากรอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ทางสกย.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าของยางพารา ตลอดจนการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร การค้นคว้า วิจัย และพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาซึ่งถือว่าเป็นภารกิจโดยตรงของสกย.จะต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ตามยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาประเทศต่อไป อันจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อเกษตรกรชาวสวนยาง และประชาชนทุกภาคส่วน ดังนั้น ในการพัฒนาธุรกิจเกษตรกรชาวสวนยาง Smart Rubber ให้ได้ตามวัตถุประสงค์จะต้องมีการพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจ พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดธุรกิจยางพาราให้เติบโตยิ่งขึ้นตลอดไป


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ