Toggle navigation
วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
“บุรีรัมย์” พลิกวิกฤตยาง เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
“บุรีรัมย์” พลิกวิกฤตยาง เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559
Tweet
ปัจจุบันการปลูกยางพาราในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนทำให้ “ยางพารา” กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราดีขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยและปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตน้ำยางพาราปริมาณสูงขึ้น
โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางพารา ประมาณ 236,370 ไร่ สามารถให้ปริมาณผลผลิตน้ำยางประมาณ 48,974 ตัน ถือเป็นปริมาณผลผลิตน้ำยางพาราที่สูงมากกว่าพื้นที่ปลูกยางพาราจังหวัดอื่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายสมปอง ชำนิจ ประธานกรรมการสหกรณ์กองทุนสวนยางโนนสุวรรณ จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์กองทุนสวนยางโนนสุวรรณ จำกัด อยู่ในการควบคุมของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสหกรณ์แห่งเดียวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่รวบรวมน้ำยางดิบมาทำแผ่นรมควัน และจัดหาตลาดจำหน่ายอย่างครบวงจร ถือเป็นการยกระดับคุณภาพการผลิตยางพาราให้ได้มาตรฐาน และสามารถสร้างอำนาจต่อรองในตลาดยางพารากับบริษัทผู้รับซื้อโดยตรง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการปันผลเฉลี่ยคืนหลังจากขายน้ำยางสด ผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นยางแผ่นแล้ว โดยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาตลาดกลางรับซื้อน้ำยางสดโดยตรงเฉลี่ย กิโลกรัมละ 4-5 บาท ที่สำคัญเกษตรกรไม่ต้องเสียเวลา ลดต้นทุนแรงงานผลิตยางแผ่น
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยางแห่งประเทศไทยได้เข้าไปสนับสนุนและส่งเสริมการบริหารจัดการยางพาราอย่างเป็นระบบให้กับสหกรณ์กองทุนสวนยางโนนสุวรรณ จำกัด ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนสถาบันเกษตรกรกับการยางแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสหกรณ์แห่งนี้ได้รับการสนับสนุนการสร้างโรงอบและรมยาง จนพัฒนาอย่างต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ โดยสหกรณ์ได้ขยายโรงรมและวัสดุอุปกรณ์ เช่น ตะกง จักรรีดยาง เพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกร ด้วยที่ผ่านมามีผลผลิตเกินกำลังการผลิต จึงจำเป็นต้องขายผลผลิตในรูปแบบน้ำยางสดไปบางส่วน เพราะมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่การเก็บโรงรับน้ำยางไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ การยางแห่งประเทศไทยได้เข้าไปส่งเสริมและสนับสนุน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มฐานเกษตรยางพารา” ซึ่งเป็นกลุ่มฐานเกษตรยางพาราที่สามารถผลิต "ยางเครพรมควัน" คุณภาพดี ที่สามารถย่นเวลาการรมควันทั้งยางแผ่นและยางเครพจาก 4-5 วัน เหลือเพียง 24-36 ชั่วโมงเท่านั้น และทำให้ยางพารา ไม่ขึ้นรา ไม่พอง และเสียรูปทรง ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร จากเดิมต้นทุนอยู่ที่ 75-80 สตางค์/กิโลกรัม เหลือเพียง 16-31 สตางค์/กิโลกรัม เท่านั้น ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มฐานเกษตรยางพาราสามารถผลิตยางเครพแห้ง 100% ได้เดือนละ 30 ตัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
กาญจนบุรี เปิดงานใหญ่ Yard OTOP Sale “กา...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ