“เบ็นคิว” สบช่องอานิสงค์โควิดเรียนออนไลน์ ลุยกลุ่มจอทัชกรีน IFP เจาะตลาดการศึกษา ดันแชร์โตกว่า 30 % แซงคู่แข่งหวังขึ้นแท่นผู้นำ

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

“เบ็นคิว” สบช่องอานิสงค์โควิดเรียนออนไลน์ ลุยกลุ่มจอทัชกรีน IFP เจาะตลาดการศึกษา ดันแชร์โตกว่า 30 % แซงคู่แข่งหวังขึ้นแท่นผู้นำ


นายวัชรพงษ์ วงษ์มา รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  กล่าวว่า จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2018 - 2019 ที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั้งโลกซบเซาลงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย ประกอบกับเหตุการณ์เรื่องสงครามทางการค้า การแข่งขันด้านธุรกิจค่อนข้างสูง ส่งผลให้หลายธุรกิจก็ต้องปิดตัวไปเช่นกันในเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ส่งผลให้ภาพรวมตลาโปรเจคเตอร์ ทั่วโลกตกลงอยู่แล้ว จนมาถึงในปี 2020-2021 ที่ก็เกิดเหตุการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยึดเยื้อยาวนานเข้าไปอีก ยิ่งส่งผลให้ภาพรวมตลาดโปรเจคเตอร์ทั้วโลกตกลงอย่างหนัก หากเปรียบเทียบเป็นตัวเลขในขนาดอุตสาหกรรมของโปรเจคเตอร์ในปี 2019 นั้นอยู่ที่ 63,000 เครื่อง แต่ในปี 2020 นั้นอุตสาหกรรมโปรเจคเตอร์มีการหดตัวลงมาที่ 50,400 เครื่องหรือ 19.87% สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้นหดตัวลงซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การชะลอการจัดซื้อจัดจ้างของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยงบประมาณส่วนใหญ่ที่เน้นการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ประเภท Notebook, Table, Computer เครื่องประกอบ และอุปกรณ์กล้องประชุมทางไกล แต่สำหรับทาง เบ็นคิว โกลบอลเรายังสามารถประคองส่วนแบ่งทางการตลาดปี 2020 ของธุรกิจโปรเจคเตอร์ที่ 7.64% จัดเป็นอันดับที่ 4 เมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการค้าทั้งหมด 15 แบรนด์ และโตขึ้น 6.11% เมื่อเทียบกับปี 2019 ”

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว เบ็นคิว เราได้รับผลกระทบเช่นกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทางเราได้ทำการปรับกลยุทธ์ที่เน้นการขายโปรเจคเตอร์แบบโซลูชั่นห้องประชุม และจับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่รับอานิสงค์จากสถานการณ์ครั้งนี้ อาทิ กลุ่มอาหารแช่แข็งส่งออก, กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์, กลุ่มธุรกิจประกันภัย, กลุ่มธุรกิจการแพทย์และโรงพยาบาล, กลุ่มธุรกิจบริษัทเอกชนที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ Top-50 แรกที่มีมูลค่าหุ้นและการเติบโตดีในช่วงปี 2020 รวมถึง เบ็นคิว ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้การสนับสนุนด้วยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ทั้งแบบเช่าซื้อหรือเช่าใช้ด้วย

ผู้บริหารหนุ่ม กล่าวต่อว่า สำหรับผลิตภัณฑ์จอภาพกลุ่ม Interactive Flat Panel (IFP) หรือจอภาพแบบทัชสกรีน ซึ่งทางเบ็นคิวประเทศไทยได้เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2016 และในปี 2017 มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 2.72% มาในปี 2020 นั้นเบ็นคิวประเทศไทย มีส่วนแบ่งทางการตลาดของจอภาพ IFP 9.51% ครองอันดับที่ 4 ซึ่งถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อน และจากการสร้างแบรนด์เชิงลึกโดยเลือกเจาะเฉพาะกลุ่มตลาดการศึกษาเอกชน พร้อมปรับกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการจำหน่ายรวมถึงจับมือกับพันธมิตรทางการค้าเปิดช่องการจำหน่ายแบบเช่าซื้อและเช่าใช้ ทั้งโซลูชั่นห้องเรียนทางไกลแบบผสมผสาน จึงส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปี 2021 ตลาดจอภาพ IFP ของเบ็นคิว ขึ้นครองแชมป์อันดับ 2 รองจากแบรนด์คู่แข่งด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 19 % เติบโตกว่า 400% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2020 ที่ผ่านมา และหากเจาะลึกลงไปถึงตัวเลขในแต่ละเซ็กเมนต์จะเห็นได้ว่าจอ IFP ของเบ็นคิวนั้นขึ้นครองแชมป์อันดับ 1 ในตลาดภาคการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 27.78% ในขณะที่ส่วนแบ่งของภาคการตลาดการศึกษาในระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยม หรือ K12 นั้น มีส่วนแบ่งทางตลาดอยู่ที่ 26% เป็นอันดับ 2 รองจากคู่แข่ง (อ้างอิง Future Source Research) และคาดว่าในอนาคต จอภาพ IFP จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยแผนกลยุทธ์ที่ได้เตรียมนำเสนอโดยตรงให้กับสถานศึกษาเอกชน”

ล่าสุด ในปี 2021 ทางเบ็นคิว ประเทศไทย เราได้ทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ จอภาพอัจฉริยะ IFP รุ่น RE9802 ขนาดหน้าจอ 98 นิ้ว เปิดตัวในราคา 499,000 บาท เจาะกลุ่มเป้าหมาย ราชการภาครัฐ และสถานศึกษาของภาครัฐโดยเฉพาะ ที่มีเด็กจำนวนเยอะในแต่ละคลาสเรียนซึ่งอยู่ในระหว่างเจรจรากับ สพฐ. คาดว่าจะเรียบร้อยในใตรมาสที่ 3 ของปีนี้  และ รุ่น CP6501K ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว เปิดตัวในราคา 299,000 บาท เจาะกลุ่มกลุ่มธุรกิจสถานศึกษาโรงเรียนเอกชน หรือ นานาชาติเป็นหลัก และกลุ่มคอเปอร์เรต บริษัทเอกชน เกี่ยวกับการประชุมในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบโควิดน้อยที่สุด อาทิ พวกธุรกิจอาหารแช่แข็ง ประกัน ธนาคาร โลจิสติก เป็นต้น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าวในปีนี้ที่เราจะเน้นไปเจาะตลาดการศึกษามากขึ้นเนื่องจากมองเห็นช่องโอกาสในสภาวะโควิดที่นักเรียนไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ ดังนั้นเบนคิวจึงตั้งเป้ายอดขายจากผลิตภัณฑ์จอภาพ IFP ในกลุ่มตลาดการศึกษาปีนี้โตขึ้นมากกว่า 30 % จากตลาดกลุ่มดังกล่าว ที่ปัจจุบันมีแบรนด์คู่แข่งคือแบรนด์เกาหลีขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้วยแชร์อยู่ที่ 30 % ดังนั้นเราจะต้องมีสัดส่วนที่มากว่าเพื่อสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มดังกล่าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ให้ได้ภายในปีนี้

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ