โทนี่ เสนอ 5 ข้อถึงรัฐบาล แนะวิธีการแก้ปัญหาทุกด้าน ขีดเส้น 1 ม.ค. ประชาชนต้องกลับมาใช้ชีวิตปกติ ทั้งด้านวัคซีน – ยา – เยียวยา - การตรวจ พร้อมกลับมาใช้ชีวิตยุค New Normal
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซั่ม (Tony Woodsome) ได้ร่วมเสวนา ในรายการ Care Talk x Care ClubHouse ตอน Roadmap to New normal วางเส้นทางสู่วิถีใหม่ โดยมีการถ่ายทอดสดหลายช่องทาง มีผู้ร่วมรับชมจำนวนมาก
ช่วงแรกของการดำเนินรายการ ทักษิณ ได้เริ่มด้วยการกล่าวปาฐกถา “Roadmap to New normal” โดยได้เสนอ 7 วิธีการแก้ปัญหาโควิดภายในสิ้นปี เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตแบบ “ปกติใหม่” ในวันที่ 1 มกราคม 2565 แก่รัฐบาล เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหามหาวิกฤตในรอบนี้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โดยเริ่มจากกการอธิบาย ถึงคำว่า New Normal โดยระบุว่า New Normal ในที่นี่คืออะไร เนื่องจากอะไรที่เป็นปกติธรรมดาเดิมเป็นไม่ได้ เราถึงต้องเรียกว่า new normal เราต้องใช้ชีวิตเหมือนปกติให้ได้ ปัจจัยที่มาแทรกคือโรคโควิด ย้อนไปร้อยกว่าปีที่แล้วก็คือไข้หวัดสเปน เพราะร่างกายเราไม่รู้จักไวรัสตัวนี้ ยาก็กำลังทดลอง ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2019 มีคนตายจากไข้หวัดใหญ่ประมาณ 20,000 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ และผู้มีโรคแทรกซ้อน ซึ่งโควิดต่อไปก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกัน หลายประเทศเริ่มบอกให้ประชาชนรู้แล้วว่าเราคงต้องอยู่กับโควิดแล้ว แต่จะอยู่อย่างไรให้ new normal ซึ่งถ้าอยู่แบบทุกวันนี้ต้องไปเข้าคิว ก็เลยทำให้ทุกวันนี้เป็น new disaster (หายนะครั้งใหม่) ซึ่งถ้าพอเข้าใจ new normal แล้วก็ต้องสร้าง roadmap ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลจริงจังแค่ไหน
ทักษิณ กล่าวว่า เราต้องวิ่งเร็วเท่าไวรัส ต้องเข้าใจก่อนว่าวันนี้วัคซีนเรามีไม่เพียงพอ บางตัวที่มีบุคคลากรทางการแพทย์ คนที่ไปฉีดแล้วก็สงสัยว่าภูมิคุ้มกันต่ำ แถมเราใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบปกติทำให้ได้วัคซีนช้า ที่ผ่านมาจึงได้นำเสนอวิธีการจัดหาวัคซีนแบบไม่เป็นทางการ เช่น ยืมจากประเทศที่วัคซีนเหลือเยอะ และจะหมดอายุ ยกตัวอย่าง อิสราเอลจะหมดอายุ เกาหลีใต้ไปยืม ประเทศไทยก็น่าจะลองติดต่อไป ขอเร็วหน่อยได้หรือไม่
"วันนี้เราฉีดเฉลี่ยกัน 200,000 – 300,000 ต่อวัน วันหยุดยังพักผ่อนฉีดได้แค่วันละ 90,000 คน และกระจายจุดฉีด ขยายจากสถานนีกลางบางซื่อเพิ่มออกไป ตั้งเป้าภายใน 3 เดือน ต้องฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 700,000-1,000,000 โดส ต่อวัน ซึ่งถ้าฉีดมากพอจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ใช้ทุกกลไกลที่มีไปหาวัคซีนมา ขอให้ต้นทุนมันต่ำหน่อย ถ้าจะเป็นทางเลือกให้คนซื้อ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องไปดูว่าสั่งซื้อเท่าไหร่ ทำไมเราถึงต้องซื้อแพงกว่าคนอื่น"
ทักษิณ กล่าวอีกว่า เรื่องต่อมา Rapid Antigen Test ยุโรปขายในราคาหลักหลายสิบบาทไทย แต่บ้านเราวันนี้ 350 บาท บางแบรนด์ 250 บาท รัฐบาลจะต้องทำให้ราคาถูก ให้คนซื้อไปตรวจเองที่บ้าน อย่างน้อยต้องนำเข้ามา 60-100 ล้านชิ้น การตรวจแบบ Antigen Test มี false positive ได้ ต้องไปยืนยันด้วย CPR Test อีกที ซื้อมาให้ตรวจฟรี คนจะไม่ต้องไปประสาทว่าจะเป็นไม่เป็น ที่จีนมีเยอะ เอาเข้ามาภายใน 30 วันให้ได้ กรณีนี้ควรทำให้เสร็จภายใน 30 วัน
“ในภาวะโรคระบาด รัฐจ่ายได้ต้องจ่าย คนไทยไม่เคยจนอย่างนี้มาก่อน ทุกอย่างต้องประหยัดให้ได้ ไม่จำเป็นอย่าเก็บเขาเลย เช่น เบอร์โทร 1668 ที่คนออกมาโวย แอพฯราชการทั้งหลายที่ใช้มันกินดาต้าเขา แต่โอเปอเรเตอร์สามารถร่วมมือกันได้ถ้าตังค์เขาหมด แอพฯตัวนี้ยังปล่อยให้ใช้ได้ งบที่ให้ กสทช. ไปตั้งเยอะแยะควรเอามาช่วยประชาชนฐานล่าง แจกซิมฟรีให้นักเรียนไปเรียนหนังสือที่บ้าน ให้ฟรีคนละร้อย และเสียค่าซิมคนละ 15 บาท คุยกับโอเปอเรเตอร์ใหม่ ออกกันคนละครึ่ง” ทักษิณ กล่าว
ต่อมา เรื่อง Tracking หรือการติดตามประชาชน เมืองนอกใช้ QR Code ทุกวันนี้ไปศูนย์การค้า เมื่อมีเหตุมันก็จะไล่ได้เลยว่าคนนี้ไปไหนกันบ้าง ไม่ต้องมานั่งไล่ถาม ไม่กล้าพูดก็มี เดี๋ยวเมียรู้ก็มี เรื่องนี้ก็ต้องรีบทำ ต้องเสร็จได้ภายใน 2-3 เดือน
นอกจากนี้อดีตนายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงการมใช้พื้นที่ของค่ายทหาร และทุกทรัพยากรที่ทหารมี เพื่อสร้างและขยาย รพ. สนาม รวมถึง รถพยาบาลพยาบาลทหาร ฝ่ายเสนารักษ์ เอามาช่วยได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ศักยภาพของสาธารณสุขเต็มหมดแล้ว ต้องขยายให้เพียงพอ โดยอยากให้ทางรัฐบาลทุ่มงบให้มากกว่านี้ งบกลางก็มีอยู่ ในเมื่อกู้มาใช้เรื่องโควิดก็ใช้ให้เต็มที่ วัคซีนที่ได้มาก็มาให้ด่านหน้าก่อน
“ท่านนายก ใส่ PPE แล้วลงไปโรงพยาบาลสนามเลย ไปที่ รพ.สนามธรรมศาสตร์ก็ได้ ท่านจะได้รู้จริง จะได้เห็นว่าอะไรต้องทำ จะได้จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง อย่า Work From Home แต่ง PPE ลงสนามเลย ไปสองที่ รพ. ธรรมศาสตร์ที่หนึ่ง และแวะไปดูคิวฉีดวัคซีนที่ ศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ ทุกวันนี้ออกันแน่นไปหมด ลงไปดูสองที่แล้วไปบริหารจัดการ ไม่ต้องไปกลัว ใส่ PPE หน้ากาก N95 และเมื่อไปดูให้เห็นของจริง จะได้รู้ปัญหาหน้างานจริง” ทั้งนี้ ทักษิณยังแนะให้รัฐบาลไทยไปสั่งจองยาของ Mers และยาฉีดของที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งอาจจะสามารถบรรเทาและรักษาโรคโควิดได้ในอนาคต ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการทดลองใช้งานจริง"
ทักษิณ กล่าวอีกว่า 1 มกราคม ควรจะฉลองปีใหม่ไปสู่ New Normal เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ เพราะรัฐบาลมีความพร้อม ถ้าทำตรงนี้ได้ จะลดเสียงด่าลงไปบ้าง ทุกวันนี้มีเพลงแต่งให้เยอะ ตนขอเตือนในฐานะที่ห่วงใยประชาชน ตนแก่กว่าท่านนายกฯ รู้ว่าอะไรทำมาเป็นประโยชน์ จากนี้ไป ถึงสิ้นปี ประเทศไทยต้องพร้อมกลับเข้าสู่ New Normal ให้ได้
“ในแง่หนึ่ง รัฐเยียวยาไม่ทั่วถึง เห็นทุกข์ของประชาชนไม่เท่ากัน และประเทศเราจนแล้ว เลียนแบบประเทศร่ำรวยไม่ไหว ซึ่งหากเยียวยาไม่ไหว ก็ทำให้กลับไป new normal ให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้น นักรบทางเศรษฐกิจจะง่อยกันหมด จะไม่มีประชาชนหาเงินมาเสียภาษีให้ ต้องให้นักรบทางเศรษฐกิจกลับไปมีกำลังสู้ใหม่”
สรุป ขั้นตอนที่ต้องทำวันนี้ คือเรื่องแรก วัคซีน เรื่องที่สอง เรื่องการตรวจ เรื่องที่สาม สถานที่รักษา เรื่องที่สี่ เรื่องการสั่งยา เรื่องที่ห้า คือการดูแลการเยียวยาอย่างทั่วถึงให้คนกลับไปกลายเป็นนักรบเศรษฐกิจ เสียภาษีให้ได้
ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังได้เสนอเพิ่มอีกข้อ คือรัฐบาลมีผู้ที่อธิบายขั้นตอน อธิบายปัญหาได้ค่อนข้างจะแย่ ลองพูดคุยกับ คอลเซ็นเตอร์ โอเปอเรเตอร์ทุกค่ายโทรศัพท์มือถือ ถ้าเราขอความร่วมมือเขา แล้วให้ชาวบ้านไปถามจากช่องทางเหล่านี้ชัดเจนกว่า เพราะพวกนี้อบรมวิธีการตอบมาตอบได้ดีกว่า ทุกวันนี้สับสนจนผมสงสารชาวบ้าน วันนี้รัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากเอกชน อย่างชินแต่การออกคำสั่งแบบที่เป็นอยู่