คาดยอดผู้ติดเชื้อโควิดทะลุ 1 ล้านคนในเดือน ส.ค. แน่ ส่งผลต่อยอดเคลมประกันภัยโควิดพุ่งแตะ 7-8 พันล้านบาท “อานนท์” ย้ำภาพรวมธุรกิจประกันภัยยังเดินหน้าได้ เหตุค่าเคลมรถยนต์ยังต่ำจากการ WFH
วันนี้ (2 ส.ค.64) กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19 ตัวเลขยังค่อนข้างสูง โดยพบผู้ป่วยผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 17,970 ราย แยกเป็นทั่วไป 17,795 ราย และจากเรือนจำและที่ต้องขัง จำนวน 175 ราย หายป่วยกลับบ้าน 13,919 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 มีจำนวน 604,421 ราย ส่วนมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 178 ราย
ขณะเดียวกันทางรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีการปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม เพิ่มอีก 16 จังหวัด รวมเป็น 29 จังหวัด และใช้มาตรการเข้มงวดทั้งล็อกดาวน์ งดออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. การจำกัดการเคลื่อนย้าย รวมถึงมาตรการอื่นๆ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 64 ไปอีก 14 วัน และจะพิจารณาทบทวนประเมินอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค. ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องขยายต่อไปจนถึง 31 ส.ค. 64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดที่ยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยกับ “สยามธุรกิจ” ว่า ภาคธุรกิจประกันภัยคาดการณ์ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงวันละ 2 หมื่นคน ส่งผลยอดต่อยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดถึงสิ้นเดือนสิงหาคม นี้ มีจำนวนเพิ่มสูงถึง 1 ล้านคน เมื่อเป็นเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อการจ่ายอัตราค่าสินไหมประกันภัยโควิดเพิ่มขึ้นถึง 7-8 พันล้านบาท
ในปี 2564 มียอดผู้ทำประกันภัยโควิดอยู่ประมาณ 15 ล้านกรมธรรม์ เบี้ยประกันรวมอยู่ที่ 5 พันล้านบาท ตอนนี้มีการจ่ายค่าสินไหมประกันภัยโควิดไปแล้วจำนวน 2,500 ล้านบาท และมีแนวโน้มการจ่ายค่าสินไหมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ยอมรับว่ามีการจ่ายสินไหมทดแทนประกันภัยโควิดสูงมาก ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้นแบบนี้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคม นี้จะมีผู้ติดเชื้อขยับขึ้นถึง 1 ล้านคนแน่นอน ซึ่งจะทำให้ต้องจ่ายค่าสินไหมมากถึง 7-8 พันล้านบาท แต่อยู่ในวิสัยที่ธุรกิจประกันภัยรับได้ เนื่องจากปีนี้มีโควิดยอดเคลมของรถยนต์ไม่สูง เพราะส่วนใหญ่ทุกคนอยู่บ้านไม่ค่อยได้ขับรถยนต์เดินทาง จึงนำเงินในส่วนนี้มาชดเชยค่าเคลมประกันภัยโควิดที่สูงขึ้น”